วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2557

i Need to Know

i Need to Know


OPPO Neo 5 สมาร์ทโฟน ราคาเบาๆ เร็วทุกสัมผัส ง่ายทุกการใช้งาน

Posted: 15 Sep 2014 03:32 AM PDT

oppo_neo_5_white
มาแล้วค่ะมาแล้ว วันนี้ I Need to Know ขอนำเสนอ OPPO Neo 5 น้องใหม่มาแรงจาก OPPO มาพร้อมกับฟีเจอร์เริ่ดหรูอลังการล้านแปด ไม่ว่าจะว่าเป็นการรองรับ 4G ใช้ซีพียู Qualcomm Snapdragon 400 ความเร็ว 1.2GHz Quad Core กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช และกล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นราคาย่อมเยา สบายกระเป๋า ที่ถือว่าคุ้มฝุดๆๆๆ

oppo_neo_5

เค้าว่ากันว่า OPPO Neo 5 ตอบโจทย์ได้ครบทั้งในเรื่องของคุณภาพเสียง คุณภาพการแสดงผลของจอภาพ คุณภาพของกล้อง ประสิทธิภาพการทำงานที่แรงติดนิ้วด้วย 4 แกนประมวลผล และรองรับระบบ 4G ในราคาค่าตัวเพียง 5,990 บาท เหมาะมากสำหรับคนที่มองหาสมาร์ทโฟนเครื่องแรก หรือต้องการอัพเกรดมาใช้งานสมาร์ทโฟน 4 แกนประมวลผลในราคาที่ไม่แพง ใครกำลังมองหาสมาร์ทโฟนในงบ 6,000 บาทไม่ควรมองข้าม OPPO Neo 5 ด้วยประการทั้งปวง

oppo_neo_5_camera

สเปค OPPO Neo 5

ข้อมูลทั่วไป
ขนาด 132 x 65.8 x 9.2 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 132.5 กรัม
เครือข่าย และ การเชื่อมต่อ
เครือข่าย 2G GSM 850/900/1800/1900 MHz
เครือข่าย 3G WCDMA 2100 MHz
เครือข่าย 4G LTE
เทคโนโลยีการรับ-ส่งข้อมูล EDGE/GPRS, HSPA, LTE 150 Mbps
การเชื่อมต่อแบบไร้สาย Wi-Fi, Wi-Fi Display, Wi-Fi Direct, Wi-Fi Hotspot, Bluetooth 4.0
การเชื่อมต่อโดยใช้สาย USB 2.0, USB On-The-Go, ช่องเชื่อมต่อชุดหูฟัง ขนาด 3.5 มิลลิเมตร
ระบบปฏิบัติการ และ หน่วยประมวลผล
ระบบปฏิบัติการ ColorOS บนพื้นฐาน Android Jelly Bean
หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 400, 1.2 GHz Quad Core
ระบบนำทาง
GPS, A-GPS
พื้นที่เก็บข้อมูล
หน่วยความจำ RAM 1 GB, ROM 4 GB
การ์ดหน่วยความจำ microSD สูงสุด 32 GB
จอแสดงผล
จอแสดงผล IPS 16 ล้านสี ระบบสัมผัส Multi-touch
ความละเอียด 480 x 854 พิกเซล กว้าง 4.5 นิ้ว
เซนเซอร์รับการสัมผัสรูปแบบ ตอบสนองการสัมผัสแม้สวมถุงมือ
อินเตอร์เน็ต และ ข้อความ
รองรับบราวเซอร์ Google Chrome
รับ/ส่ง ข้อความ SMS, MMS, Instant Messaging, E-mail
กล้อง
กล้องด้านหลัง ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
ค่ารูรับแสง f/2.4
โหมดถ่ายภาพ HDR, GIF, Panorama, Audio Photo, Poster Scanner, Barcode Scanner, Beauty Plus
BSI sensor สำหรับถ่ายภาพในที่แสงสว่างน้อย
กล้องด้านหน้า ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
คุณสมบัติพิเศษ
Screen-off Gestures ควบคุมฟังก์ชั่นในขณะที่จอแสดงผลปิด (อยู่ในโหมดสลีป)
เช่น ใช้ 2 นิ้ว ลากลงเพื่อเปิดเครื่องเล่นเพลง, วาดวงกลมเพื่อเข้าสู่โหมดถ่ายภาพ เป็นต้น
Gesture panel เปิดแอพพลิเคชั่นด้วยการวาดรูปหรือตัวอักษรตามที่ได้ตั้งค่าไว้
เครื่องเล่นวีดีโอ รองรับไฟล์ MP4, 3GP, MOV, MKV, AVI, FLV, MPEG
เครื่องเล่นเพลง รองรับไฟล์ MP3, AAC, APE, AMR, WAV, MID, OGG, FLAC, WMA
เครื่องเล่นวิทยุ ในระบบ FM
รองรับแอพพลิเคชั่นจากกูเกิ้ล (Google Mobile Services)
รองรับบริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Networking Service)
โหมดปิดสัญญาณโทรศัพท์ (Airplane mode)
สนทนาผ่านลำโพงด้วยระบบ Hands-free
ปฏิทิน, นาฬิกาปลุก, เครื่องคิดเลข, รายงานสภาพอากาศ
พลังงาน
แบตเตอรี่ Lithium-ion 1900 mAh

 

Oppo เผยโฉม OPPO N1 mini สมาร์ทโฟนตัวเล็ก สเปคแจ่ม กล้องบิดได้ด้วยนะเออ

Posted: 14 Sep 2014 11:06 PM PDT

 

oppo-n1-mini1

หลังจากได้รับความนิยมจาก OPPO N1 มาแล้วอย่างล้นหลาม ทาง OPPO เองก็ไม่พลาดที่่จะส่งเจ้าตัวเล็กสเปคแจ่มอย่าง OPPO N1 mini มาตอกย้ำความแรงอีกครั้ง ก็ว่าไม่ได้ ของเค้าดีจริงๆ ถือว่าถอดแบบมาจาก OPPO N1 มาแบบเต็มๆแต่มีการปรับขนาดให้เครื่องกะทัดรัดและกระชับมือขึ้น ส่วนการดีไซน์ใครที่ชื่นชอบรุ่นพี่อย่าง OPPO N1 ก็ต้องบอกเลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค๊าาา

รูปลักษณ์ภายนอกของ OPPO N1 mini

OPPO-N1-Mini-Headสำหรับ OPPO N1 mini นั้นมีกล้องที่หมุนได้สูงสุด 195 องศา เรื่องการถ่ายภาพเซลฟี่นี่ไม่ต้องพูดถึงแจ่มค๊าาา นอกจากนี้ Body ของตัวเครื่องนั้นก็ลงตัวสวยงามด้วยเส้นขอบของตัวเครื่องสีทองแชมเปญเพิ่มความหรูหราให้กับ OPPO N1 mini  เป็นอย่างดี นอกจากนี้ในส่วนของ Body นั้นก็เรียบลื่นน่าสัมผัสอีกทั้งยังจับกระชับมือมากขึ้นกว่าเดิม อาจจะด้วยความที่ขนาดหน้าจอที่ถือว่าได้มาตรฐานที่ 5 นิ้ว (OPPO N1 หน้าจอ 5.9 นิ้ว) ถือว่าแก้ปัญหาเรื่อง OPPO N1 จับไม่กระชับมือได้เป็นอย่างดี ในส่วนของหน้าจอของ OPPO N1 mini อย่างที่บอกไปแล้วนะคะว่าขนาดของหน้าจอถูกลดลงจาก 5.9 นิ้วเหลือเพียง 5 นิ้ว หน้าจอเป็นแบบ IPS แสดงสีสันได้มากกว่า 16 ล้านสี มาพร้อมกกระจกกันรอย Gorilla Glass 3 ตามสมัยนิยม ความละะเอียดอยู่ที่ 1280 x 720 พิกเซล นอกจากนี้ยังสนับสนุนการสัมผัสหน้าจอด้วยถุงมือหรือมือที่เปียกก็สามารถสั่งงาน OPPO N1 mini ได้อย่างสบายๆ

ขุมพลังภายในของ OPPO N1 mini

oppo_n1_mini_blue_front_back

OPPO N1 mini มาพร้อมขุมพลังที่เรียกได้ว่าแจ่มพอตัวเลยทีเดียว โดย OPPO เลือกใช้ ซีพียู Qualcomm Snapdragon 400 ซึ่งเป็น CPU Quad-core ความเร็ว 1.6 GHz จัดเต็มกับ RAM 2 GB มาพร้อมหน่วยความจำตัวเครื่อง 16 GB พร้อมระบบปฏิบัติการที่ปรับแต่งมาแล้วในแบบฉบับของตัวเองที่ทาง OPPO เรียกว่า Color OS ซึ่งบน OPPO N1 Mini นั้นเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด Color OS 1.4 โดยพัฒนาขึ้นจาก Android 4.3 JellyBean ก็จัดเต็มมาให้ซะขนาดนี้ แอดมินใจอ่อนเลยนะเนี๊ยะ

ความบันเทิงภายใน OPPO N1 mini

OPPO N1 mini นั้นมีเครื่องเล่นเพลงที่ถือว่าสดใสในแบบฉบับของ Color OS ของทาง OPPO นั่นแหล่ะค่ะ โดยเครื่องเล่นเพลงจะแสดง Pop Up ขึ้นมาทันทีที่มีการเสียบหูฟังเข้ากับตัวเครื่อง สามารถเข้าฟังเพลงโปรดได้ทันทีทุกที่ทุกเวลา นอกจากนี้ยังมีระบบสวิงเครื่องเพื่อเปลี่ยนเพลง และมีระบบเสียงแบบ Dirac HD เพิ่มมิติและคุณภาพของเสียงขณะฟังเพลง หรือรับชมภาพพยนต์ได้อย่างสะใจ บนหน้าจอ 5 นิ้วอีกด้วยค่ะ

กล้องถ่ายรูปของ OPPO N1 mini

Oppo-N1-mini-5ก็เรียกได้ว่าได้รับอานิสงค์มาจากรุ่นพี่อย่าง OPPO N1 มาเต็มๆนะคะสำหรับเรื่องกล้องของ OPPO N1 mini ถือเป็นไฮไลท์สุดแจ่มของรุ่นนี้เลยก็ว่าได้  ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการหมุนได้ถึง 195 องศา ตัวเซ็นเซอร์ของกล้องยังใช้ชิปเซ็นเซอร์ถ่ายภาพรุ่นใหม่จาก Sony มีชุดเลนส์มากถึง 6 ชิ้นเลนส์และมีรูรับแสงที่กว้างถึง F2.0 ให้ภาพที่ได้มีความสว่างและคมชัดสุดๆ นอกจากนี้ OPPO N1 mini ยังมาพร้อมกับ Pure Image Engine เทคโนโลยีประมวลผลภาพรุ่นล่าสุดของ OPPO ที่ทำให้ภาพถ่ายที่ได้สมจริงและเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังสามารถถ่ายภาพแบบ Ultra HD ที่มีความละเอียดสูงถึง 24 ล้านพิกเซลได้ โดย OPPO N1 mini จะถ่ายภาพ 6 ภาพพร้อมกันแล้วเลือกเอาส่วนที่ดีที่สุดของภาพมารวมกันจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ภาพที่ได้มีความละเอียดสูงถึง 24 ล้านพิกเซล นอกจากนี้ยังมีโหมด Super Zoom ที่ทำให้การถ่ายภาพจาะระยะไกลเป็นเรื่องง่ายๆและไม่ทำให้ภาพสูญเสียความละเอียดอีกด้วย นอกจากนี้ OPPO N1 mini ยังมาพร้อมฟีเจอร์ยอดนิยมอย่างโหมด Beauty หรือโหมดหน้าสวย ที่เนรมิตหน้าของคุณให้เนียนใส และด้วยความสามารถในการหมุนของกล้องทำให้คุณสามารถถ่ายภาพเซลฟี่ ด้วยโหมดหน้าสวยได้แบบใสกิ๊ก แถมยังสามารถควบคุมการถ่ายภาพเซลฟี่ด้วยรีโมทพกพาแบบเฉพาะตัวของ OPPO อย่างเจ้า O-Click ได้อีกด้วย และไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งของฟีเจอร์กล้องของ OPPO N1 mini ก็คือความสามารถในการเปิดกล้องได้นานถึง 32 วินาที หรือที่เรียกว่า Slow Shutter นั่นเอง ซึ่งสามารถถ่ายภาพประทับใจยามค่ำคืนได้สบายๆเหมือนมีกล้อง DSLR ติดตัวไปทุกที่อีกด้วย

การเชื่อมต่อของ OPPO N1 mini

ก็ถือว่าฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อพื้นฐานจัดมาให้แบบไม่กั๊กนะคะ ทั้งการรองรับ 3G ทุกเครือข่ายในประเทศไทยของเรา ตั้งแต่คลื่น 850, 900 และ 2100 เมกกะเฮิร์ต ดังนั้นไม่ว่าคุณจะใช้ซิมการ์ดของเครือข่ายไหนอยู่ก็มั่นใจได้เลยค่ะ ว่า OPPO N1 mini นั้นสามารถใช้งานได้ทั้งสิ้น นอกจากการเชื่อมต่อ 3G แล้วก็มีรองรับการเชื่อมต่อแบบ NFC และรองรับ USB OTG และ WiFi Direct หรือแม้แต่ WiFi Display ก็จัดมาครบครัน นอกจากฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อพื้นฐานแล้ว ก็ยังขาดไม่ได้กับ การเชื่อมต่อกับ O-Click หรือรีโมทสำหรับถ่ายภาพเซลฟี่ได้อีกด้วย

ราคาของ OPPO N1 mini

OPPO N1 mini เปิดตัวเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2014  ด้วยราคา 12,990 บาท และจากการสอบถามไปยังผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือบ้านเราทั้ง 3 เจ้านะคะ พบว่า ทั้ง 3 เจ้ามี OPPO N1 Mini วางจำหน่ายค่ะ โดยราคาเท่ากันทุกเจ้าคือ 12,990 บาท แต่ก็จะมีโปรโมชั่นที่แตกต่างกันออกไปดังนี้ค่ะ

1.

 เริ่มกันที่เจ้าแรก AIS

ติดตามรายละเอียดได้ที่ >>> http://www.ais.co.th/quality_device/en/device/86/empty

AIS Price

2.

 ต่อกันที่ Dtac

ติดตามรายละเอียดได้ที่ >>> http://www.dtac.co.th/device/OPPO/n1-mini.html

Dtac_Price

3.

ตบท้ายด้วย Truemove-H

ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ >>> http://store.truecorp.co.th/product/detail/1644/OPPO_N1_Mini

AW-promotion-oppo-N1-mini(2)

 

น่าซื้อมั้ยกับ OPPO N1 mini

oppo-n1-mini2ก็ถือได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ดูดีมากเลยทีเดียวแม้จะเลียนแบบรุ่นพี่อย่าง OPPO N1 จนแทบจะเรียกว่าก๊อปปี้กันมาเลยก็ได้ แต่ว่ารุ่นใหม่ย่อมไฉไลกว่ารุ่นเก่า รุ่นใหม่เกิดขึ้นมาจากการพัฒนารุ่นเก่าๆ จึงทำให้เจ้า OPPO N1 mini ค่อนข้างได้เปรียบทั้งเรื่องของกล้องหมุนได้ 195 องศา ภาพถ่ายที่ได้ ไม่ว่าจะกล้องหน้าหรือกล้องหลัง (กล้องเดียวนั่นแหล่ะ ใช้มือหมุนเอา) ภาพที่ออกมาก็สวยใสไร้ที่ติ หรือจะใช้ฟีเจอร์ปรับแต่งรูปภาพ ทั้งโหมดบิวตี้ของเครื่องก็ทำให้ภาพที่ได้สวยยิ่งขึ้นไปอีก แถมเจ้า OPPO N1 mini ยังมาพร้อมหน้าจอที่ได้รับการคอนเฟิร์มมาแล้วว่า หน้าจอที่ 5 นิ้วนี่แหล่ะ กำลังพอดีกับอุ้งมือ ยิ่งทำให้ตอบโจทย์การใช้งานยิ่งขึ้นไปอีก นอกจากนี้หากจะมองถึงในส่วนของตัวเครื่องก็ถือว่า OPPO N1 mini สอบผ่าน ทั้ง ซีพียู Quad-core และ RAM 2GB และระบบปฏิบัติการล่าสุดอย่าง Color OS ที่มีระบบ Gesture ต่างๆไว้ให้ใช้งานครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการวาดหน้าจอเป็นวงกลมเพื่อสั่งงาน หรือจะวาดเป็นรูปแบบอื่นๆก็สามารถกำหนดได้ และนอกจากนี้กล้องของ OPPO N1 mini นั้นยังตอบโจทย์ด้านอื่นๆได้อีกอย่างเช่น การถ่ายภาพของ Slow Shutter เปิดหน้ากล้องได้นานถึง 32 วินาที ทำให้สามารถถ่ายภาพความประทับใจของแสงไฟยามค่ำคืนได้อย่างสบายๆเลยทีเดียว โดยรวมแล้ว OPPO N1 mini ผ่านค่ะ!!

สเปคเต็มๆของ OPPO N1 Mini

ข้อมูลเครือข่าย (Network)
เครือข่าย GSM 850/900/1800/1900 MHz
UMTS 850/900/1700/1900/2100 MHz
เทคโนโลยีการรับ/ส่งข้อมูล 2G: EDGE/GPRS
3G: HSDPA , HSUPA
ใช้งาน Micro-SIM
ข้อมูลตัวเครื่อง
โทรศัพท์มือถือ แฟบเล็ต
จอแสดงผล IPS-LCD 16 ล้านสี
ระบบสัมผัส Multi-Touch
กว้าง 5 นิ้ว (แนวทะแยง)
ความละเอียด 720 x 1280 พิกเซล (293 ppi)
Capacitive
Corning Gorilla Glass
ระบบเซ็นเซอร์ (Sensor) ระบบหมุนภาพอัตโนมัติ (Accelerometer)
ตรวจจับแสงปรับความสว่างอัตโนมัติ (Ambient light)
ระบบเปิด/ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนา (Proximity)
มีสีให้เลือก (Colors) White
ระบบปฏิบัติการ (OS, CPU) ระบบปฏิบัติการ: Color OS 1.4 based on Android 4.3 (Jelly Bean)
หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 400 Quad Core
ความเร็ว : 1.6 GHz
หน่วยความจำ 16 GB (ตัวเครื่อง)
RAM 2GB
ระบบเชื่อมต่อ
การหาตำแหน่ง Assisted GPS
การเชื่อมต่ออื่นๆ รองรับแอพพลิเคชั่น Google Maps™
WiFi 802.11b/g/n
เชื่อมโยงเครือข่ายกับความบันเทิงในที่พักอาศัย (DLNA)
จุดกระจายสัญญาณอินเตอร์เน็ตแบบพกพา (Portable Wi-Fi Hotspot)
เชื่อมต่อไร้สายระหว่างอุปกรณ์โดยตรง (Wi-Fi Direct)
Bluetooth 4.0
รองรับ NFC (Near Field Communication)
Micro USB 2.0
รองรับการถ่ายโอนข้อมูลกับ Flash Drive โดยตรง (USB On-The-Go)
ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
ใช้งานอินเตอร์เน็ต
รองรับบราวเซอร์ Google Chrome
รองรับภาษา HTML5
โซเชียลเน็ตเวิร์คแอพฯ Facebook, Twitter
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)
SMS, MMS
อีเมล Email (Push Mail)
ข้อความแชท Skype, Google Talk
สนับสนุน Gmail, Google Search
ฟังก์ชั่นมัลติมีเดีย
กล้องดิจิตอล 13 ล้านพิกเซล (Digital Camera)
พร้อมแฟลช LED
ซูมดิจิตอล 4 เท่า (4x Digital Zoom)
ขนาดภาพสูงสุด 3120 x 4160 พิกเซล (Image Size)
โฟกัสอัตโนมัติ (Auto Focus)
แตะเลือกจุดโฟกัส (Touch Focus)
แนบตำแหน่งบนแผนที่ไปกับภาพถ่าย (Geo-Tagging)
สมดุลแสงสีขาว(Automatic, Sunny, Cloudy, Incandescent, Fluorescent)
โหมดฉาก (อัตโนมัติ, ทิวทัศน์, เวลากลางคืน, พระอาทิตย์ ขึ้น ตก)
โหมดถ่ายภาพพาโนราม่า (Panorama)
โหมดถ่ายภาพช่วงการรับแสงสูง (HDR)
กล้องหน้า (Front Camera) ใช้กล้องเดียวกันกับกล้องหลัง
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video Recording) ความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล
รูปแบบไฟล์วีดีโอ : MPEG-4
เครื่องเล่นวีดีโอ (Video Player) รูปแบบไฟล์ : MPEG-4, 3GP, WMV, FLV, AVI, MOV, MKV
รองรับวีดีโอจาก YouTube™
เครื่องเล่นเพลง (Music Player) รูปแบบไฟล์ : AMR, AAC, MP3, WAV, WMA, MIDI, OGG, FLAC
รองรับไฟล์รูปภาพ JPG, JPEG, BMP, GIF
การโทร และ ฟังก์ชั่นพื้นฐาน ชนิดไฟล์บันทึกเสียง AMR, AWB, WAV
ออร์กาไนเซอร์ ปฏิทิน, เครื่องคิดเลข, นาฬิกาปลุก, จดบันทึก, จับเวลา, นับถอยหลัง, เวลาโลก
ริงโทน MP3
ระบบสั่น (Vibration in Phone)
ใช้งานเครื่องโดยไม่เปิดสัญญาณโทรศัพท์ (Flight Mode)
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่มาตรฐาน 2,140 mAh (Standard Battery)

มันแจ่มมาก!!! Logitech K480 คีย์บอร์ดบลูทูธ ใช้งานบนสมาร์ทโฟน,แท็บเล็ตและคอมพิวเตอร์ได้ในเวลาเดียวกัน

Posted: 14 Sep 2014 09:33 PM PDT

bluetooth-multi-device-keyboard-k480

ใครที่ชอบการทำงานแบบมัลติทาส์กกิ้งฟังทางนี้เลยค่ะ อย่าพลาดนะ วันนี้ I Need to Know ขอนำเสนอ Bluetooth Multi-Device Keyboard K480 คีย์บอร์ดบลูทูธ ไซส์มินิจาก Logitech โดยสามารถใช้งานบนสมาร์ทโฟน,แท็บเล็ตและคอมพิวเตอร์ได้พร้อมกันถึง 3 เครื่อง เป็นไงคะ มันเริ่ดป่ะล่ะ

 

Logitech K480 มาพร้อมกับการรองรับการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth  ที่สามารถใช้งานพร้อม ๆ กันได้มากถึง 3 อุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ โดยควบคุมผ่านปุ่ม Easy-Switch ที่ใช้ปรับหมุนเพื่อเลือกการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ มีช่องที่เหมาะสมกับการใช้งานสมาร์ทโฟนขนาดใหญ่และแท็บเลตเกือบทุกรุ่น พร้อมมุมเอียงให้มองเห็นได้ชัดเจน ปุ่มบนคีย์บอร์ดเป็นแบบ Universal  รองรับการใช้บนระบบปฏิบัติการ Windows, OS X, Chrome OS, iOS 5 ขึ้นไป และ Android 3.2 ขึ้นไป  น้ำหนักอยู่ที่ 820 กรัม แหล่งพลังงานเป็นแบตเตอรี่ขนาด AAA จำนวน 2 ก้อนค่ะ

bluetooth-multi-device-keyboard-k480 (6)

Logitech K480 วางจำหน่ายเรียบร้อยแล้วนะคะ ราคาขายอยู่ที่ $49.99 คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 1,600 บาท มีให้เลือกสองสีคือ สีขาวและดำค่ะ  ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่

bluetooth-multi-device-keyboard-k480 (4) bluetooth-multi-device-keyboard-k480 (5)

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : LogiTech.Com

iPhone 6 (ไอโฟน6) ราคา เปิดตัว อัพเดท สเปค ข้อมูล และล่าสุด

Posted: 14 Sep 2014 04:46 PM PDT

Apple ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว iPhone 6 (ไอโฟน6) และ iphone 6 plus สำหรับ iphone 6 จะมีหน่วยประมวณผล Dual core, 1400 MHz, 64-bit A8 ที่ทาง Apple บอกว่าเร็วกว่า CPUs เดิมถึง 25% และเร็วกว่า GPU เดิมถึง 50% ทีมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ iOS 8

iphone6

การออกแบบและขนาดหน้าจอ

iPhone-6-designการออบแบบและดีไซด์ของ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ตัวเครื่องผลิตจาก Anodized Aluminum, Stainless Steel และกระจก โดยกระจกจอแบบใหม่นี้ Apple เรียกว่า Ion strengthened กล้องด้านหลังมีลักษณะนูนขึ้นมา ขอบของตัวเครื่องโค้งมนกว่ากว่าเดิม

iphone 6 จะมีขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้ว Retina HD Display ความละเอียด​ (resolution) 750 x 1334 pixels (326 ppi) โดยจะมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง iphone 5s แต่มีความบางกว่า ด้วยความบางแค่ 6.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 129 กรัม

สำหรับ iphone 6 plus จะมีขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว Retina HD Display ความละเอียด​ (resolution) 1080 x 1920 pixels (401 ppi) มีขนาดความหนา 7.1 มิลลิเมตร น้ำหนัก 172 กรัม

ทั้งสองรุ่นจะมาพร้อมกับ พิกเซลแบบ Dual-domain เพื่อช่วยการมองในมุมกว้าง และเคลือบสารกันรอยนิ้วมือไว้ด้านหน้า อีกด้วย

หน่วยประมวณผล

iPhone-6-performance
ภาพ: หน่วยประมวณผลภาพ (GPU) เป็น 84 เท่าของ iphone รุ่นแรก, และหน่วยประมวณผล (CPU)เป็น 50 เท่า เท่าของ iphone รุ่นแรก

ประสิทธิภาพาการทำงานของ iphone 6 และ iphone 6 plus มาพร้อมกับ ซิปเซ็ต quad-core A8 แบบ 64-bit ที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนเล็กๆ ของซิป 20-nm กับ ทรานซิเตอร์ 2 ล้านตัว โดยหน่วยประมาณผล (CPU) 2 แกนใหม่ จะมีความเร็วขึ้น 25 % และ หน่วยประมวณผลภาพ (GPU) จะมีความเร็วเพิ่มขึ้น และจะมีโปรเซสเซอร์ M8 ร่วม ทำงานสำหรับประมวลผลการเคลื่อนไหวอีกด้วย

กล้อง (iSight Camera)

iphone 6 camera
การออกแบบกล้องของ iphone 6 และ iphone 6 plus จะมีลักษณะนูนขึ้นมาเล็กน้อย โดยทั้ง iPhone 6 และ iPhone 6 Plus มีความละเอียดของกล้องด้านหลัง 8 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 1.2 ล้านพิกเซล เท่ากับ iphone 5s แต่ปรับปรุงรูรับแสงให้กว้างสูงสุดที่ F2.2 เพื่อให้ภาพถ่ายมีความสวยงามมากขึ้น

ด้านการถ่ายวิดีโอ ความคมชัดระดับ HD 1080p ที่ 60 fps, สามารถถ่ายวิดีแบบ โอสโลว์โมชั่นหรือวิดีโอเร่งความเร็ว ที่ 240 fps

คุณสมบัติเด่นของกล้อง (Features iSight Camera)
Focus Pixels – iphone จะมีเซ็นเซอร์ที่มีข้อมูลภาพที่ถ่ายละเอียดขึ้นจะส่งผลให้ระบบออโต้โฟกัสทำงานได้ดีและเร็วขึ้น
Face Detection (ระบบตรวจจับใบหน้า) – กล้อง iphone iSight มีสามารถในการจดจำใบหน้าได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยังมีการปรับปรุงระบบตรวจจับการกะพริบตาและรอยยิ้ม รวมถึงการเลือกใบหน้าในโหมดถ่ายภาพรัวต่อเนื่อง
Exposure Control (การควบคุมค่าแสง) – สามารถปรับภาพถ่ายหรือวิดีโอให้สว่างขึ้นหรือมืดลงในได้ถึง 4 ระดับ
Auto Stabilization (ป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติ) – ระบบป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติจะถ่ายภาพที่
มีการเปิดรับแสงในระยะเวลาสั้นๆ จำนวน 4 ภาพติดกัน จากนั้นจะดึงส่วนที่ดีที่สุดของแต่ละภาพมารวมไว้ด้วยกัน เพื่อให้คุณได้ภาพที่มีนอยซ์ วัตถุเคลื่อนที่ หรือการสั่นที่เกิดจากการมือไหวน้อยที่สุด
Optical Image Stabilization (ป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล) – รับบจะตรวจวัดข้อมูลการเคลื่อนไหวและจะขยับชิ้นเลนส์อย่างแม่นยำเพื่อชดเชยอาการมือสั่นในสภาพแสงน้อย
Photos App (แอพรูปภาพ) – ตอนถ่ายรูปแล้วจะมี app เพื่อปรับแต่งรูปด้วยเครื่องมือ จัดองค์ประกอบภาพอัจฉริยะ ปุ่มปรับค่าต่างๆ และฟิลเตอร์ภาพถ่าย
Panorama (พาโนรามา) – ภาพพาโนรามาความละเอียดสูงสุดถึง 43 เมกะพิกเซล และยังมีระบบปรับค่าแสงอัตโนมัติแบบไดนามิกในขณะถ่าย

การเชื่อมต่อ

iphone 6 ที่มี Systems on Chip (SoC) ใหม่ ที่ Support LTE มากว่า 20 โครงข่าย ซึ่งมากกว่ามือถือทุกรุ่นในตอนนี้ ตัวอย่างเช่น LTE roaming, Voice Over LTE และ Wi-Fi calling ในส่วนของ Wifi iphone 6 เปลี่ยนไปใช้มาตรฐานแบบ 802.11ac ซึ่งจะทำให้ Wi-Fi เร็วกว่า 802.11n ถึง 3 เท่า

iphone 6 สามารถ ดูแนวนอนได้แล้ว

iphone6-land

ราคา iphone 6 และ iPhone 6 Plus

Apple จะเปิดขาย iPhone 6 ที่ต่างประเทศในวันที่ 19 กันยายน 2014
iPhone-6-price

คาดว่า ราคา iPhone 6
16 GB ราคา 28,500 บาท
32 GB ไม่มีขาย
64 GB ราคา 32,500 บาท
128 GB ราคา 36,500 บาท

คาดว่า ราคา iPhone 6 Plus
16 GB ราคา 33,500 บาท
32 GB ไม่มีขาย
64 GB ราคา 37,500 บาท
128 GB ราคา 41,500 บาท

ประเทศที่เปิดขาย iphone 6 และ iphone 6 plus

iphone 6 sale

iphone 6 และ iphone 6 plus จะเปิดขายในวันที่ 19 กันยายนนี้ และเปิดให้พรีออเดอร์ 12 กันยายนนี้ ซึ่งจะเปิดขาย ใน 9 ประเทศ ดังนี้:
สหรัฐอเมริกา
ฝรั่งเศษ
ฮ่องกง
แคนนาดา
เยอรมัน
สิงคโปร
อังกฤษ
ออสเตียเลีย
ยี่ปุ่น

ส่วนประเทศในคงต้องรอกันต่อไป แต่มีแนวโน้มว่า ประเทศไทยจะมีโอกาสที่จะเปิดขายในรอบสอง ประมาณเดือนตุลาคมนี้ ยังไงคงตอนรอต่อไป ไม่น่าจะเกินปีนี้แน่นอน ที่คนไทยจะได้ใช้ iphone 6 และ iphone 6 plus กัน

อัพเดท: ประเทศที่เปิดขาย iphone 6 รอบสอง ยังไม่มีไทย

เปรียบเทียบขนาด iPhone 5s Vs iphone 6 VS iPhone 6 Plus

iphone6-size

iPhone 5s: 4 นิ้ว ความคมชัด 640 x 1136 pixels ความหนาแน่ของพิกเซล 326 ppi
iPhone 6: 4.7 นิ้ว ความคมชัด 750 x 1334 pixels ความหนาแน่ของพิกเซล 326 ppi
iPhone 6 Plus: 5.5 นิ้ว ความคมชัด 1080 x 1920 pixels ความหนาแน่ของพิกเซล 401 ppi

เปรียบเทียบความหนา

iphone6-width
iPhone 5s: 7.6 มิลลิเมตร
iPhone 6: 6.9 มิลลิเมตร
iPhone 6 Plus: 7.1 มิลลิเมตร

เปรียบเทียบ Batetry

การใช้แบตของ iphone 6 ในการโทร 3g ใช้ใช้ได้ถึง 10 – 14 ชั่วโมง
batetry
เข้าเว็บผ่าน Wifi
– iphone 5s 10 ชั่วโมง
– iphone 6 11 ชั่วโมง
– iphone 6 plus 12 ชั่วโมง

เข้าเว็บผ่าน 4G LTE
– iphone 5s 10 ชั่วโมง
– iphone 6 10 ชั่วโมง
– iphone 6 plus 12 ชั่วโมง

คุยโทรศัพท์ผ่าน 3G
– iphone 5s 10 ชั่วโมง
– iphone 6 14 ชั่วโมง
– iphone 6 plus 24 ชั่วโมง

รุ่นที่ได้ใช้ IOS 8

หลังจากที่เปิดตัว ios 7 เมื่อปีก่อนทำให้ iphone 3gs อัพเดทไม่ได้ มาคราวนี้ถึงตา iphone 4 แล้วที่ไม่ได้ไปต่ออัพเดทเครื่องเป็น ios 8 ไม่ได้แล้ว ที่นี้มาดูเครื่องที่ได้ไปต่อ มีดังต่อไปนี้
ios-8-support
– iPhone 4s
– iPhone 5
– iPhone 5c
– iPhone 5s
– iPod touch 5th generation
– iPad 2
– iPad with Retina display
– iPad Air
– iPad mini
– iPad mini with Retina display.

iOS 8 จะเปิดให้ใช้ในวันที่ 17 กันยายนนี้
iOS-8-september-17

สเปค (spec) iphone 6

DESIGN
OS: iOS (8.x)
ขนาด 5.43 x 2.64 x 0.28 inches (138 x 67 x 7 mm)
Rugged: Water resistant
ขนาดจอ: 4.7 inches
Resolution: 750 x 1334 pixels
Pixel density: 326 ppi
Technology: IPS LCD
Touchscreen: Yes
Features: Light sensor, Proximity sensor, Scratch-resistant glass, Oleophobic coating
DISPLAY
กล้องหลัว 8 megapixels
กลอ่งวีดีโอ 1920×1080 (1080p HD) (60 fps) Video calling
กล้องหน้า 2.1 megapixels
HARDWARE
System chip: Apple A8
Processor: Dual core, 1400 MHz, 64-bit
memory: 1 GB
Built-in storage: 128 GB
BATTERY
Talk time (3G): 14.00 hours
Capacity: 1800 mAh

สเปค (spec) => iphone 6 plus

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น