วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2557

i Need to Know

i Need to Know


Nokia Lumia 930 วินโดวส์โฟนสเปคเทพ ราคาสุดแจ่ม มาแล้วจ้า

Posted: 19 Sep 2014 03:07 AM PDT

Nokia Lumia 930

ก็ถือว่าไม่บ่อยมากนักที่จะเห็น Nokia จัดหนักจัดเต็มกับสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟนได้เทพขนาดนี้  งานนี้ต้องเรียกว่าจัดเอาสุดยอดของแต่ละสายมารวมกันเลยทีเดียว ทั้งกล้อง ทั้งระบบเสียง หรือการเชื่อมต่อต่างๆ งานนี้โนเกียจัดเต็มค๊าาา โดยวินโดวส์โฟนที่เรากำลังจะกล่าวถึงนี้ก็คือ Nokia Lumia 930 ตามไปดูสเปคแบบจัดเต็มกันเถอะ

Nokia Lumia 930_3

1

รูปลักษณ์ภายนอกของ Nokia Lumia 930

เนื่องจาก Nokia Lumia 930 เป็นวินโดวส์โฟนรุ่นใหม่จาก Microsoft ซึ่งถือเป็นทายาทของรุ่นพี่อย่าง Lumia 925 ที่รูปลักษณ์ในแบบโนเกียต้องมา ด้วยเอกลักษณ์ที่ตัวเครื่องเป็นแบบโลหะขึ้นรูปเป็นกรอบตัวเครื่อง และฝาหลังโพลีคาร์บอเน็ต นั่นก็บ่งบอกถึงความเป็น โนเกียแบบสุดๆ แต่นอกจากดีไซน์ดังกล่าวแล้วก็ยังมีการทำให้กรอบโลหะที่รุ่นก่อนๆมีความโค้งมนไม่ได้สัดส่วนเท่าไหร่กลายมาเป็นแบบเรียบหรูแทน ในส่วนของหน้าจอ Nokia Lumia 930 มาพร้อมหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ทางโนเกียบอกว่าหน้าจอของ Nokia Lumia 930 เป็นแบบ IPS ClearBlack ที่มีความละเอียดระดับ Full HD 1080p ประกบกับกระจกทนรอยขีดข่วนอย่าง Gorilla Glass 3 พร้อมเทคโนโลยี Super Sensitive Touch ให้เราสามารถสัมผัสหน้าจอสั่งงานได้แม้ขณะที่กำลังใส่ถุงมืออยู่

Nokia Lumia 930_1

2

ขุมพลังภายในของ Nokia Lumia 930

ก็ต้องยอมรับนะคะว่า Nokia Lumia 930 มาพร้อมสเปคเรียกว่าอันดับต้นๆของสมาร์ทโฟนรุ่นแรงๆเลยทีเดียว โดยเจ้า Nokia Lumia 930 มาพร้อม CPU ตัวเทพอย่าง Snapdragon 800 แบบ Quad-core ที่มีความเร็ว 2.2 GHz พร้อม RAM 2GB และการ์ดจอ Adreno 330 จัดหนักจัดเต็มมาซะขนาดนี้ใครที่เป็นสาวกเกมส์มือถือนี่ไม่ต้องห่วงเลยว่าเครื่องจะไม่แรงพอ ไม่ว่าแอพไหน เกมส์ไหน รับรองลื่นปรื๊ดๆ ส่วนระบบปฏิบัติการ Windows Phone ของ Nokia Lumia 930  จะเป็นเวอร์ชั่น 8.1 ก็ถือเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดไม่ต้องไปอัพเดทเองให้วุ่นวาย แอพพลิเคชั่นต่างๆก็มีให้เลือกอย่างมากมาย เช่น Action Center ที่รวมเอาแท็บ Notification และ Toggle Setting เข้าไว้ด้วยกัน โดยที่เราเองก็สามารถเช็คสถานะข้อความแจ้งเตือนต่างๆและตั้งค่าเปิด-ปิดการเชื่อมต่อต่างๆได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่ลากนิ้วจากขอบบนของหน้าจอ Nokia Lumia 930 ลงมาเท่านั้นเอง

Nokia Lumia 930 camera

3

กล้องดิจิตอลสุดแจ่มของ Nokia Lumia 930

งานกล้องต้องมา!!! Nokia Lumia 930 มาพร้อมกล้องดิจิตอลความละเอียดสูงถึง 20 ล้านพิกเซล งานนี้เรียกว่าเห็นทุกรูขุมขนแน่นอน นอกจากนี้ยังมาพร้อมแฟลช Dual LED มีเซ็นเซอร์รับภาพขนาดใหญ่ 1/2.5นิ้ว พร้อมระบบกันสั่นแบบ OIS และยังคงใช้เลนส์ Zeiss คุณภาพสูงเหมือนเช่นเคย สำหรับอัตราส่วนมาตรฐานของภาพถ่ายจะอยู่ที่ 16:9 ที่ความละเอียด 16ล้านพิกเซล (แต่ถ้าเลือก 4:3 จะได้ความละเอียด 19 ล้านพิกเซล) โดยการบันทึกภาพจะใช้ระบบ Dual Capture ซึ่งจะบันทึกภาพเป็น 2 ไฟล์ต่อการถ่ายภาพ 1 ครั้ง โดยจะแบ่งเป็นไฟล์สำหรับแชร์ไปยังโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆจะได้ความละเอียดที่ 5 ล้านพิกเซล ส่วนอีก 1 ไฟล์จะเป้นไฟล์ต้นฉบับจะมีความละเอียดอยู่ที่ 16 ล้านพิกเซล พูดถึงเรื่องกล้อง หากไม่พูดถึงฟีเจอร์ต่างๆที่มาพร้อมกับกล้องแล้วล่ะก็ สาวๆที่ชื่นชอบการถ่ายภาพคงด่าแอดมินแย่เลย สำหรับฟีเจอร์ต่างๆที่มาพร้อมกับกล้องของ Nokia Lumia 930 ก็ถือว่าแจ่มพอตัวเลยทีเดียว อย่างเช่นฟีเจอร์ Reframing เป็นฟีเจอร์ที่ใช้ตกแต่งภาพโดยที่ไม่สูญเสียความละเอียดของภาพถ่าย และเนื่องจากกล้องเทพขนาดนี้ สามารถถ่ายภาพไฟล์ RAW (.DNG) สำหรับนำไปตกแต่งเพิ่มเติมด้วยโปรแกรมอื่นๆได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นเท่ๆอย่าง Living Images ที่ตัวเครื่องจะทำการเก็บภาพเคลื่อนไหวสั้นๆก่อนที่จะบันทึกภาพนิ่งเพื่อเพิ่มชีวิตชีวาในการเปิดดูอัลบัมรูปได้เป็นอย่างดี ในส่วนของการถ่ายวีดีโอก็ยังคงสามารถบันทึกภาพได้ที่ความละเอียดระดับ Full HD 1080p พร้อมการบันทึกเสียงแบบ Nokia Rich Recording ผ่านไมโครโฟน 4 ตัว อีกทั้งยังเป็นวินฌดวส์โฟนรุ่นแรกที่มาพร้อมระบบการบันทึกเสียงรอบทิศทาง Dolby Digital Plus 5.1 เพิ่มความคมชัดสมจริงของเสียงขึ้นไปอีกขั้น

Nokia Lumia 930 Radio

4

ความบันเทิงใน Nokia Lumia 930

ในส่วนของความบันเทิงที่มาพร้อมกับ Nokia Lumia 930 นี้ก็จัดมาให้ทั้งการฟังเพลง และรับชมวีดีโอสามารถเข้าใช้งานได้จากเมนู Music + Videos เหมือนเช่นเคย และขาดไม่ได้กับฟังก์ชั่นพื้นฐานอย่างวิทยุเอฟเอ็ม พร้อมกับแอพพลิเคชั่นใหม่อย่าง Nokia MixRadio ที่ให้บริการฟังเพลงแบบออนไลน์ ด้วยการมิกซ์แนวเพลง และศิลปินที่เราชื่นชอบมารวมไว้ หรือจะเลือกฟังจากชาร์ตเพลงฮิตทั้งของไทยและต่างประเทศซึ่งเราสามารถดาวน์โหลดจากชาร์ตเพลงต่างๆมาเก็บไว้แบบออฟไลน์ เอาไว้ฟังตอนหลัง โดยที่ไม่ต้องต่ออินเตอร์เน็ต

Nokia Lumia 930_2

5

การเชื่อมต่อของ Nokia Lumia 930

เริ่มกันที่การเชื่อมต่อกับสัญญานอินเตอร์เน็ตแบบ 3G Nokia Lumia 930 ก็รองรับทุกคลื่นความถี่ที่บ้านเรามีนะคะ แถมยังสามารถรองรับการเชื่อมต่อบนเครือข่าย 4G LTE ด้วยอัตราการดาวน์โหลดสูงสุด 150 Mbps นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน WiFi และสามารถเป็น WiFi Hotspot ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถรองรับ NFC สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่รองรับอีกทั้งยังสามารถใช้งานร่วมกับแท่นชาร์จไร้สายได้ทันที โดยไม่ต้องพึ่งเคสเสริม พร้อมระบบ Motion Data ที่ทำงานบน Sensor Core เพื่อเก็บข้อมูลการเคลื่อนไหว และนำไปใช้งานนับก้าวเดิน คำนวณแคลอรี่ร่วมกับแอพพลิเคชั่น Big Health & Fitness นอกจากนี้ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือตัวระบุพิกัด GPS สำหรับระบุตำแหน่งและค้นหาสถานที่ต่างๆ บน Here Maps และใช้งานร่วมกับ Here Drive+ ได้อีกด้วย

6

ราคา Nokia Lumia 930

Nokia Lumia 930 เปิดตัวเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2014  ด้วยราคา 19,890 บาท และจากการสอบถามไปยังผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือบ้านเราทั้ง 3 เจ้า พบว่ามีเพียง Dtac ที่มีจำหน่าย Nokia Lumia 930 ค่ะ โดยรายละเอียดดังนี้

Nokia Lumia 930 Price

 

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >>> http://www.dtac.co.th/device/Nokia/lumia-930.html

 

7

น่าซื้อมั้ยสำหรับ Nokia Lumia 930

Nokia Lumia 930 มาพร้อมกับจุดเด่นที่ต้องเรียกว่ามากมายเหลือเกิน ด้วยการออกแบบที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน ลงตัวด้วยกรอบเครื่องโลหะที่เพิ่มความหรูหราทนทาน ในเรื่องของประสิทธิภาพก็ไม่มีอะไรที่น่าหนักใจ กับสเปคที่ยังจัดอยู่ในกลุ่มของสมาร์ทโฟนระดับบน เสริมทัพด้วยระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8.1 ระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ได้รับการปรับปรุงการใช้งานด้านต่างๆให้สะดวกมากยิ่งขึ้น อีกทั้งส่วนของกล้อง PureView ก็ยังคงรักษามาตรฐานด้านการถ่ายภาพเอาไว้ได้อย่างดี กับการบันทึกภาพนิ่งที่คมชัดพร้อมลูกเล่นการใช้งานอันหลากหลาย และการเคลื่อนไหวที่มีระบบเสียงสมจริง เพียงเท่านี้ก็ทำให้ Nokia Lumia 930 เป็นอีก 1 วินโดวส์โฟนที่น่าจับตามองมากเลยทีเดียวNokia Lumia 930 final

สเปคเต็มๆของ Nokia Lumia 930

ข้อมูลเครือข่าย (Network)
เครือข่าย GSM 850/900/1800/1900 MHz
UMTS 850/900/1900/2100 MHz
เทคโนโลยีการรับ/ส่งข้อมูล 2G: EDGE/GPRS
3G: HSDPA 42.2 Mbps, HSUPA 5.76 Mbps
4G: LTE DL 150 Mbps, LTE UL 50 Mbps
ใช้งาน Nano-SIM
ข้อมูลตัวเครื่อง
โทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน
จอแสดงผล 16 ล้านสี
ระบบสัมผัส Multi-Touch
กว้าง 5 นิ้ว (แนวทะแยง)
ความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล (441 ppi)
Capacitive
Corning Gorilla Glass
ระบบเซ็นเซอร์ (Sensor) ตรวจจับแสงปรับความสว่างอัตโนมัติ (Ambient light)
ตรวจจับความเคลื่อนไหวของตัวเครื่อง (Accelerometer)
ระบบเปิด/ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนา (Proximity)
ระบบตรวจจับคลื่นแม่เหล็ก (Geomagnetic)
ระบบเซนเซอร์หมุนภาพ (Gyroscope)
มีสีให้เลือก (Colors) Black, White, Green, Orange
ระบบปฏิบัติการ (OS, CPU) ระบบปฏิบัติการ: Windows Phone 8.1
หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 800 Quad Core
ความเร็ว : 2.2 GHz
หน่วยความจำ ROM 32GB
RAM 2GB
คุณสมบัติเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม กล่องบรรจุภัณฑ์รีไซเคิลได้สูงสุด 100 เปอร์เซ็นต์
ใช้คู่มือขนาดเล็กเพื่อลดการใช้กระดาษ
ผลิตจากวัสดุที่ปราศจาก PVC, นิกเกิลบนพื้นผิวผลิตภัณฑ์, , แอนติโมนี ไตรออกไซด์
ระบบเชื่อมต่อ
การหาตำแหน่ง Assisted GPS
การเชื่อมต่ออื่นๆ รองรับแอพพลิเคชั่น Geotagging, Nokia Maps™
ระบบนำทางพร้อมแผนที่ Nokia Drive
WiFi 802.11b/g/n/a
เชื่อมโยงเครือข่ายกับความบันเทิงในที่พักอาศัย (DLNA)
จุดกระจายสัญญาณอินเตอร์เน็ตแบบพกพา (Portable Wi-Fi Hotspot)
Bluetooth 4.0
รองรับชุดหูฟังสเตอริโอ (A2DP Bluetooth™ Stereo)
รองรับ NFC (Near Field Communication)
Micro USB 2.0
รองรับถ่ายโอนข้อมูลผ่าน ActiveSync®
ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
ใช้งานอินเตอร์เน็ต
ใช้งานอินเตอร์เน็ต รองรับบราวเซอร์ IE, Nokia Web Browser
โซเชียลเน็ตเวิร์คแอพฯ Facebook, Twitter, MySpace
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)
SMS, MMS
อีเมล Email (IMAP, POP3, SMTP)
ข้อความแชท Windows (MSN) Live, Windows (MSN) Live, Skype
สนับสนุน Gmail, Yahoo
ฟังก์ชั่นมัลติมีเดีย
กล้องดิจิตอล  20 ล้านพิกเซล (Digital Camera) (Carl Zeiss optics)
พร้อมแฟลช Dual LED
ซูมดิจิตอล 2 เท่า (2x Digital Zoom)
โฟกัสอัตโนมัติ (Auto Focus)
แตะเลือกจุดโฟกัส (Touch Focus)
ISO สูงสุด 4000
แนบตำแหน่งบนแผนที่ไปกับภาพถ่าย (Geo-Tagging)
สมดุลแสงสีขาว(Automatic, Sunny, Cloudy, Incandescent, Fluorescent)
โหมดฉาก (อัตโนมัติ)
ค้นหาใบหน้าอัตโนมัติ (Face Detection)
โหมดถ่ายภาพพาโนราม่า (Panorama)
กล้องหน้า (Front Camera) ความละเอียด 1.2 MP
รองรับ Video Call สนทนาแบบเห็นภาพ
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video Recording) ความละเอียด HD 1080 x 1920 พิกเซล
ซูมดิจิตอล 3 เท่า (3x Digital Video Zoom)
รูปแบบไฟล์วีดีโอ : MPEG-4
เครื่องเล่นวีดีโอ (Video Player) และ วีดีโอสตรีมมิ่ง รูปแบบไฟล์ : MPEG-4, 3GP, WMV, H.264, H.263, 3G2, M4V, AVI, MOV
วีดีโอสตรีมมิ่ง : 3GP, AVI, MP4
รองรับวีดีโอจาก YouTube™
เครื่องเล่นเพลง (Music Player) รูปแบบไฟล์ : AMR, AMR-NB, AAC, AAC-LC, MP3, MP4, 3GP, 3G2, WMA 9, WMA 10 Pro
วิทยุ FM Radio
รองรับไฟล์รูปภาพ JPG, JPEG
แอพพลิเคชั่นมาตรฐาน
โปรแกรมที่รองรับ โปรแกรมอ่านเอกสาร (Quick Office editors)
โปรแกรมอ่านไฟล์ PDF
แหล่งดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น (Windows Marketplace)
โปรแกรมรับ-ส่งอีเมล์ Outlook Mobile (Email)
การโทร และ ฟังก์ชั่นพื้นฐาน
ออร์กาไนเซอร์ ปฏิทิน, เครื่องคิดเลข, นาฬิกาปลุก, จดบันทึก
แฮนด์ฟรีในตัว (Build-In Handsfree)
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ ระบบชาร์จแบตเตอรี่ไร้สาย
แบตเตอรี่มาตรฐาน 2,420 mAh (Standard Battery)
การใช้งานแบตเตอรี่
เปิดรอรับสาย GSM 18 วัน (Standby Time)
สนทนาต่อเนื่อง GSM 11.5 ชั่วโมง (Talk Time)
สนทนาต่อเนื่อง 3G 15.5 ชั่วโมง (Talk Time)
ใช้งาน Wi-Fi ต่อเนื่อง 9 ชั่วโมง
ชมวีดีโอนานต่อเนื่อง 9 ชั่วโมง (Video playback time)
ฟังเพลงต่อเนื่อง 75 ชั่วโมง (Music playback time)

iOS 8 เป็นยังไง ไม่กล้าอัพ!! มาดูกันสิ่งที่เปลี่ยนไป iOS 8 vs iOS 7 ชอบหรือไม่ ค่อยตัดสินใจอีกทีจ้าาา+++

Posted: 19 Sep 2014 01:59 AM PDT

images_14110125341

เปิดให้ดาวน์โหลดอย่างเป็นทางการแล้วนะคะคุณ สำหรับ iOS 8 เมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา I Need to Know ก็ได้นำเสนอไปแล้วนะคะ ทั้งลิงค์ ดาวน์โหลด iOS 8 และ วิธีอัพเดท iOS 8 อัพเดตกันรึยังเอ่ย ใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะอัพเดตดีรึเปลา? ไปดูความแตกต่างกันค่ะ ว่าจะมีอะไรบ้างที่เปลี่ยนไป ส่วนชอบหรือไม่ ค่อยตัดสินใจอีกทีจ้าาา

1

Spotlight Search

iOS 8 and iOS 7 Spotlight Search

2

Text messages in lock screen

iOS 8 and iOS 7 Text messages in lock screen

3

Message notifications

iOS 8 and iOS 7 OS 8 Message notifications

4

Voice and video messages

iOS 8 and iOS 7 Voice and video messages

5

Third-party keyboard

iOS 8 and iOS 7 Third-party keyboards

6

Location sharing in chats

iOS 8 and iOS 7 OS 8 Location sharing in chats

7

Favorite Contacts in the Multitasking Window

iOS 8 and iOS 7 Splash message notifications

8

Interactive notifications

iOS 8 and iOS 7 OS 8 Interactive notifications

9

Siri meets Shazam

iOS 8 and iOS 7 Siri meets Shazam

10

Notification panel

iOS 8 and iOS 7 OS 8 Notification panel

11

Spotlight Search in Safari

iOS 8 and iOS 7 Spotlight Search in Safari

12

Request desktop site in Safari

iOS 8 and iOS 7 Request desktop site in Safari

13

Better sharing menu

iOS 8 and iOS 7 OS 8 Better sharing menu

14

Email Client

iOS 8 and iOS 7 OS 8 Email Client

15

Camera App

iOS 8 and iOS 7 Camera App

16

Time-lapse videos

iOS 8 and iOS 7 Time-lapse videos

17

Photo editing

iOS 8 and iOS 7 Photo editing

18

Parental controls

iOS 8 and iOS 7 Parental controls

19

Health app

iOS 8 and iOS 7 OS 8 Health app

20

Battery Statistics

iOS 8 and iOS 7 Battery Statistics

21

QuickType prediction

iOS 8 and iOS 7 QuickType prediction

22

Favorite contacts in the multitasking window

Favorite-contacts-in-the-multitasking-window

23

Group chats get a do-not-disturb button

Group-chats-get-a-do-not-disturb-button

 

 

ขอบคุณรูปและข่อมูลจาก : Phone Arena.Com

สู้ไม่สู้!!! iPhone 6 Plus ราคาเครื่องหิ้ว 7 หมื่นจ้า

Posted: 19 Sep 2014 01:30 AM PDT

เปิดราคาiPhone 6 และ iPhone 6 Plus เครื่องหิ้ว มาบุญครอง ราคา เกือบ 5 หมื่น และ 7 หมื่นตามลำดับ งานนี้ใครใจร้อนรับรองกินแกลบแน่

iphone6-background

ก็ถือเป็นที่รอคอยกันนะคะสำหรับ เหล่าสาวก iPhone ทั่วโลกว่าเมื่อไหร่จะวางขายที่ประเทศของตัวเองซักที ประเทศไทยก็เช่นกัน หลังอกหักจากการประกาศรายชื่อประเทศที่ทาง Apple จะวางขาย iPhone 6 รอบที่สองกันไป งานนี้เหล่าผู้ค้าขาย iPhone ที่มาบุญครองเลยเอาใจเหล่าแฟนๆด้วยการสั่งเครื่องหิ้วมาวางขายกันก่อนเลย แต่ดูราคาแล้ว แอดมินคงต้องท่อง “ยุบหนอ พองหนอ” แล้วล่ะค่ะ เพราะราคามหาโหดเหลือเกิน

ราคา iPhone 6 ทั้ง 2 รุ่น เครื่องหิ้วมาบุญครอง

iPhone 6 Plus ขนาด 16 GB สีเทา ราคา 64,000 บาท สีเงิน ราคา 62,000 บาท สีทอง ราคา 64,500 บาท

iPhone 6 Plus ขนาด 64 GB สีเทา ราคา 66,000 บาท สีเงิน ราคา 64,000 บาท สีทอง ราคา 67,500 บาท

iPhone 6 Plus ขนาด 128 GB สีเทา ราคา 71,000 บาท สีเงิน ราคา 70,000 บาท สีทอง ราคา 73,500 บาท

ก็ถ้าจะราคาโหดขนาดนี้ แอดมินขอรอดูราคาเครื่องศูนย์ก่อนดีกว่าค่ะ ใจร้อนนักคงต้องกินแกลบกันนานเลยทีเดียว แต่หากใครใจร้อน อดรนทนรอไม่ไหวแล้วก็จัดไปค่ะ

เงินเหลือว่างั้น!!! บล็อกเกอร์ชาวอเมริกัน ได้สั่งจอง iPhone 6 มาเพื่อทดสอบความทนทาน [มีคลิปทดสอบ]

Posted: 18 Sep 2014 11:37 PM PDT

จะถือว่าทำเพื่อประโยชน์ของมวลมนุษย์ชาติก็ไม่ผิด เมื่อบล็อกเกอร์ชาวอเมริกันท่านหนึ่ง ได้สั่งจอง iPhone 6 และ iPhone 6 Plus มาเพื่อทดสอบความแข็งแรงทนทาน ด้วยวิธี Drop Test หรือการทำตกพื้นจากระดับความสูงที่ต่างกัน WoW!!!

เทียบ iPhone6vsiPhone6Plus

โดยเมื่อวันที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมาหลังจากที่นาย Dave Rahimi บล็อกเกอร์ชาวอเมริกันได้สั่งจอง iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ผ่านออนไลน์ เมื่อถึงเวลารับเครื่อง นาย Dave Rahimi ก็ได้บินลัดฟ้าจากอเมริกาเพื่อไปรับเครื่องที่ออสเตรเลีย ซึ่งก็ถือว่านาย Dave Rahimi คนนี้เป็นเจ้าของ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus เป็นคนแรกของโลก แต่เรื่องมันไม่จบแค่นั้น แทนที่เขาจะนำ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ไปใช้งานแบบประชาชีทั่วไป แต่เขากลับนำเจ้า iPhone 6 และ iPhone 6 Plus นี้มาทดสอบความแข็งแรงยอดนิยมที่เรียกว่า Drop Test หรือการทำตกพื้นจากระดับความสูงที่ต่างกัน ก็แน่นอนว่าทั้งสองรุ่นตัวเครื่องมีรอยบุบส่วนหน้าจอก็แตกไปตามคาด ส่วนอื่นๆจะเป็นยังไง คงต้องติดตามกันต่อในคลิปแล้วล่ะค่ะ ว่าระหว่าง iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ใครจะแข็งแรงกว่ากัน ปล.แอดมินไม่กล้าดู บอกตรงๆ “เสียดายค๊าาาา”

 

เค้าว่ากันว่า+++Apple เตรียมปล่อยอีกแล้ว สำหรับ iPad รุ่นใหม่พร้อมกับระบบปฏิบัติการ OS X Yosemite เวอร์ชั่นเต็ม 21ตุลาคมนี้!!

Posted: 18 Sep 2014 07:38 PM PDT

1 (1)

สำหรับสาวก Apple ต้องถือว่าช่วงนี้มีเรื่องมาให้ตื่นเต้นกันตลอดเลยนะคะ ตั้งแต่ การเปิดตัวของ iPhone 6, iPhone 6 Plus และ Apple Watch เมื่อประมาณสัปดาห์ที่แล้ว(วันที่ 9 กันยายน 2557) และการอัพเดต  iOS8 เวอร์ชั่นเต็ม เมื่อสองวันก่อนนี่เอง(วันที่ 17 กันยายน 2557) ล่าสุด มีรายงานจากเว็บไซต์ The Daily Dot.Com อีกแล้วค่ะว่า Apple อาจมีเซอร์ไพร์สาวกอีกรอบโดยการ เปิดตัว iPad รุ่นใหม่ที่จะมาพร้อมกับะบบปฏิบัติการ OS X Yosemite เวอร์ชั่นเต็ม ในวันที่ 21 ตุลาคมนี้!! เอาซี้ งานนี้เหล่าสาวกเตรียมตัวไว้เลย

Picture3

เค้าว่ากันว่า iPad รุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว น่าจะหมายถึง iPad Air รุ่นที่ 2 และ iPad mini รุ่นที่ 3 ที่พัฒนาต่อจาก iPad Air และ iPad Mini Retina Display และคาดกันว่าภายในงานเดียวกันนี้อาจจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่อื่นๆ อีกเพียบเลยค่ะ อาทิ iPod touch รุ่นใหม่, iPad mini, Mac mini, iMac, MacBook Air และ Apple TV เป็นต้น

Picture4

อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการยืนยันใดๆ จาก Apple ค่ะจะจริงหรือไม่อย่างไรเราคงต้องติดตามกันต่อไปค่ะ สุดท้ายท้ายสุด iPhone 6 และ iPhone 6 Plus เริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐฯ และอีกหลายประเทศตั้งแต่ 19 กันยายนนี วันนี้นะคะ!!

ที่มา : The Daily Dot.Com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น