วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2557

iPhone, iPad, Android, Windows Phone 8 เกมรีวิว แอพพลิเคชั่นรีวิว วิจารณ์ มือถือ ข่าวสารล่าสุด - APPDISQUS

iPhone, iPad, Android, Windows Phone 8 เกมรีวิว แอพพลิเคชั่นรีวิว วิจารณ์ มือถือ ข่าวสารล่าสุด - APPDISQUS


Microsoft โต้กลับ Android One เตรียมผลักดันมือถือ Windows phone ราคาถูกในช่วง 1 ปีข้างหน้า

Posted: 15 Sep 2014 10:36 AM PDT

สืบเนื่องจากข่าวที่ Google เปิดตัวโครงการ Android One ที่เน้นทำตลาดมือถือราคาถูกในประเทศกำลังพัฒนา โดยกำหนดราคาเอาไว้ที่ราวๆ 100 ดอลล่าร์หรือราว 3,250 บาท

Microsoft เองก็ตอบกลับนโยบายนี้ของ Google โดยให้สัมภาษณ์ถึงโครงการและแผนการตลาดของมือถือ Windows phone ราคาถูกเช่นกัน โดยคาดกันว่า Microsoft ก็ตั้งเป้าผลิตมือถือ Windows phone รุ่นใหม่ๆให้มีราคาอยู่ในช่วง 100 ดอลล่าร์เช่นเดียวกับ Android One เช่นกัน

 

คุณ Chris Weber ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายธุรกิจมือถือของ Microsoft ระบุว่าในช่วง 12- 18 เดือนข้างหน้านี้ Microsoft จะผลักดันโครงการมือถือราคาถูก ให้มีราคาที่ถูกกว่าที่ขายอยู่ในตลาดปัจจุบัน นอกจากนี้จะยังคงสานต่อโครงการผลักดันมือถือระดับเรือธงให้มีราคาที่ถูกลง (ภายใต้แนวคิดเดียวกับการวางจำหน่าย Nokia Lumia 830 ที่ Microsoft ระบุว่าเป็นมือถือที่มีเทคโนโลยีระดับเรือธง ในราคาที่สัมผัสได้)

Nokia Lumia 830

Nokia Lumia 830

 

 

โดยโครงการมือถือราคาถูกของ Microsoft เริ่มต้นจากการวางจำหน่ายของฟีเจอร์โฟนราคา 40 ดอลล่าร์หรือราว 1,200 บาทอย่าง Nokia 130 ที่วางจำหน่ายในวันนี้ ซึ่ง Microsoft ระบุว่า นี่เป็นขั้นแรกของการรุกตลาดมือถือราคาถูก

ปัจจุบันสมาร์ทโฟนรุ่นที่ราคาถูกที่สุดของ Microsoft คือ Nokia Lumia 520 ที่มีราคาอยู่ที่ราว 100 ดอลล่าร์อยู่แล้วในประเทศอินเดีย และเจ้า Lumia 520 นี้ ยังเป็นมือถือ Lumia ที่ขายดีที่สุดและเป็นอุปกรณ์ที่ขายดีที่สุดของ Microsoft อีกด้วย

น่าสนใจว่า หาก Microsoft จะผลักดันมือถือที่ราคาถูกกว่านี้ แต่ยังคงประสบการณ์ใช้งานที่ดีอยู่ จะออกมาเป็นอย่างไร

มือถือ Lumia รุ่นเล็กที่ขายดีที่สุด

มือถือ Lumia รุ่นเล็กที่ขายดีที่สุด

 

และต้องไม่ลืมว่าถึงจะออกมือถือที่ราคาใกล้เคียงกับ Android One ออกมา แต่ด้วยระบบนิเวศน์ (Eco-system) ด้านแอพพลิเคชั่นของ Windows phone ที่ยังตามหลัง Android อยู่มาก การช่วงชิงตลาดนี้ Microsoft ต้องทำการบ้านให้หหนักกว่าแค่การมุ่งไปที่ตัวเครื่องเท่านั้นครับ

 

 

ที่มา: Neowin

 

Author information

Ton Panasit
Ton Panasit
Geek มือใหม่ อ่านข่าว IT เป็นกิจวัตร ใช้งานมือถือมาหลายระบบ แต่ตอนนี้ลงหลักปักฐานกับ windows phone…

Google เปิดตัว Android One เน้นตลาดมือถือราคา 100 ดอลล่าร์

Posted: 15 Sep 2014 10:05 AM PDT

จากที่มีข่าวลือมาซักระยะครับว่า Google เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ ภายใต้ชื่อว่า Android One และวันนี้ Google ก็เปิดตัวเจ้าโครงการที่ว่านี้อย่างเป็นทางการแล้ว

Android-One_white

Android One เป็นโครงการมือถือที่เน้นตลาดราคาถูก โดย Google จับมือกับพันธมิตรในประเทศอินเดียอย่าง Micromax, Spice และ Karbonn เปิดตัวมือถือในโครงการ Android One พร้อมกันถึง 3 รุ่น และทุกรุ่นตั้งราคาเอาไว้เหมือนกันคือ 100 ดอลล่าร์หรือราว 3,250 บาท

เป้าหมายของโครงการ Android One มีอยู่ 3 ประการคือ

  • ให้ประชาชนในประเทศที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย สามารถเข้าถึงมือถือสมาร์ทโฟนได้ในราคาที่เหมาะสม
  • เพื่อให้คนกลุ่มนั้นสามารถเข้าถึงระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุดและแอพพลิเคชั่นใหม่ๆได้
  • ให้คนกลุ่มนี้สามารถใช้งานสมาร์ทโฟนได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าแพคเกจอินเตอร์เน็ตที่อาจจะยังสูงอยู่เมื่อเทียบกับค่าครองชีพ

 

เพื่อให้ตอบสนองเป้าหมาย 3 ประการนั้น Google ได้ร่วมกับผู้ผลิตฮาร์ดแวร์หลายๆราย กำหนดสเปคสำหรับมือถือในโครงการ Android One ซึ่งมีสเปคของมือถือในโครงการ Android One ล๊อตแรก ออกมาเป็นดังนี้ครับ

  • กล้องหน้าและหลังคุณภาพสูง (ราวๆ 5 MP สำหรับกล้องหลัง และ 2 MP สำหรับกล้องหน้า)
  • หน้าจอขนาดตั้งแต่ 4.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ FWVGA (854 x 480 พิกเซล)
  • CPU Quad-core ความเร็วราว 1.3 GHz จาก Media Tek
  • แรม 1 GB
  • หน่วยความจำภายในราว 4 GB และขยายเพิ่มได้ด้วย micro SD Card
  • สามารถฟังวิทยุได้
  • แบตเตอร์รี่ขนาด 1,700 mAh
  • รองรับการใช้งาน 2 ซิม
  • มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 4.4 KitKat และจะได้รับการอัพเดทเป็นระบบ Android L เป็นกลุ่มแรก เมื่อ Google ปล่อยอัพเดทระบบปฏิบัติการตัวนี้ช่วงปลายปี
  • สำหรับประเทศที่เครือข่ายมือถือเข้าร่วมโครงการ Android One ผู้ใช้งานจะได้รับสิทธิในการอัพเดทเฟิร์มแวร์แบบ OTA ผ่านการเชื่อมต่อเครือข่าย 3G ได้แบบไม่มีค่าใช้จ่าย และสามารถใช้งานแอพที่เข้าร่วมโครงการกว่า 50 แอพได้ โดยค่า data ในช่วง 200 MB แรกในแต่ละเดือนจะไม่มีค่าบริการ ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 6 เดือน

group_UI-visible

 

ต้องบอกว่าด้วยราคาราว 3,250 บาทกับสเปคและโปรโมชั่นระดับนี้ นับว่าคุ้มค่าและเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปสำหรับประเทศในกลุ่มเป้าหมายของ Google แล้ว และ Google คาดว่าจะมีผู้ผลิตมือถือรายใหญ่อย่าง Acer, Alcatel, Asus, HTC รวมถึงผู้ผลิตชิปอย่าง Qualcomm  เข้าร่วมโครงการนี้มากขึ้นในอนาคต

 

กลุ่มเป้าหมายของโครงการ Android One ของ Google คือประเทศอินเดีย และกลุ่มประเทศในแถบเอเชียอย่างอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ รวมถึงกลุ่มประเทศแถบเอเชียใต้อย่าง บังกลาเทศ เนปาล ปากีสถาน ศรีลังกา ที่ Google วางแผนจะขยายโครงการ Android One ให้ครอบคลุมในปี 2014 และขยายไปยังประเทศอื่นๆในปี 2015

 

สำหรับประเทศไทย ยังไม่มีชื่อในกลุ่มประเทศแรกที่ประกาศออกมา คาดว่าต้องรอดูการประกาศจาก Google ในช่วงต้นปี 2015 อีกครั้งครับ

ปิดท้ายด้วยวิดีโอแนะนำโครงการ Android One กันครับ

 

ที่มา: Google Blogs ผ่าน PhoneArena

 

Author information

Ton Panasit
Ton Panasit
Geek มือใหม่ อ่านข่าว IT เป็นกิจวัตร ใช้งานมือถือมาหลายระบบ แต่ตอนนี้ลงหลักปักฐานกับ windows phone…

PR : โลจิเทคปล่อยเม้าส์ใหม่ Logitech ® Wireless Mouse M280 ดีไซน์สุดเปรี้ยว ออกแบบเพื่อการพกพา รองรับไลฟ์สไตล์ยุคไร้สาย

Posted: 15 Sep 2014 09:17 AM PDT

กรุงเทพฯ – 15 กันยายน 2557– "โลจิเทค" บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ชั้นนำระดับโลก วันนี้ประกาศเปิดตัว Logitech® Wireless Mouse M280 เม้าส์ไร้สายคอลเลคชั่นใหม่ ดีไซน์สุดเฉี่ยวเด่นสะดุดตา มาในรูปทรงโค้งมนรองรับสรีระมือผู้ใช้งาน ช่วยถนอมมือและเพิ่มความคล่องตัวในการคลิ๊ก เม้าส์รุ่นใหม่ถูกออกแบบให้มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา เพื่อสะดวกต่อการพกพาไปพร้อมกับโน้ตบุ๊กคู่ใจ

เมาส์ไร้สายรุ่น M280 มีสามสีให้เลือก (ดำ, น้ำเงิน, แดง) บ่งบอกความเป็นตัวตนและสไตล์ของคุณได้อย่างดีเยี่ยม ติดตั้งการใช้งานแสนง่ายดายแค่เสียบตัวรับสัญญาณก็เริ่มใช้งานได้ทันที ตัวรับสัญญาณที่มีขนาดเล็กจิ๋วพอที่จะอยู่ในพอร์ต USB และภายในตัวเมาส์ ผู้ใช้งานจึงไม่จำเป็นต้องถอดเข้าถอดออกและคอยกังวลว่าจะทำหาย โดยเสียบตัวรับสัญญาณไว้ได้ตลอดแม้ในกรณีที่คุณเคลื่อนย้ายไปโน่นมานี่ และยังสามารถเก็บตัวรับสัญญาณไว้ภายในเมาส์โดยไม่จำเป็นต้องถอดออก

M280_3 Color (2)

คุณสมบัติเด่น

* ออกแบบขนาดพกพา: เมาส์รุ่นใหม่มีขนาดเล็ก สามารถพกใส่กระเป๋าขนาดเล็กได้สบาย

* มี 3 สีสุดเท่ให้เลือก เติมพลังให้ชีวิตมีความร่าเริงกระตือรือร้นและมีสีสัน แต่ละสีบ่งบอกความเป็นตัวตนและบุคลิกลักษณะที่แท้จริงของคุณ

* สามารถเสียบแล้วลืมตัวรับสัญญาณขนาดจิ๋วที่อยู่ในโน้ตบุ๊คของคุณไปได้เลย: ตัวรับสัญญาณขนาดเล็กมาก สะดวกที่สุด เพียงแค่เสียบเข้ากับพอร์ต USB และเชื่อมต่อกับเมาส์ของคุณได้ทันทีโดยไม่ใช้ต้องซอฟต์แวร์ใด ๆ

* บอกสั่งลาเทคโนลียีแบบมีสายไปได้เลย ด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่อแบบไร้สายขั้นสูง Logitech Advanced 2.4 GHz ช่วยให้คุณมั่นใจในคุณภาพการเชื่อมต่อที่สมบูรณ์แบบ เพลิดเพลินไปกับโลกไร้สายที่ไร้ขอบเขต ด้วยการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือระดับสูง ปราศจากการดีเลย์หรือสัญญาณหลุด

* สินค้ารับประกันในส่วนฮาร์ดแวร์ 1 ปี

M280_Black_TOP

เมาส์ไร้สายรุ่น M280 จะช่วยเติมเต็มโลกไร้สายที่แสนอิสระของคุณ พร้อมประสิทธิภาพแห่งความแม่นยำที่มีมากขึ้นและการควบคุมที่ดียิ่งกว่าทัชแพดบนโน้ตบุ๊ก วันนี้สินค้าพร้อมจัดจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว

ติดตามข่าวสารโลจิเทคในประเทศไทย เชิญแวะ

www.logitech.com/th-th

สำหรับเฟซบุ๊คแฟนเพจของโลจิเทคในประเทศไทย

www.facebook.com/LogitechThaiFan

อินสตาแกรม: logitechthailand

M280_Blue_TOP

เกี่ยวกับโลจิเทค

โลจิเทค เป็นผู้นำระดับโลกในตลาดอุปกรณ์ต่อพ่วงส่วนบุคคล สร้างสรรค์นวัตกรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล การสื่อสารในโลกอินเตอร์เน็ท เพลงดิจิตอล ความบันเทิงดิจิตอลในครัวเรือน อุปกรณ์เกม และอุปกรณ์ไร้สายต่างๆ โลจิเทคก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2524 ปัจจุบันเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SWX Swiss Exchange (LOGN) ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และ Nasdaq National Market System (LOGI) ประเทศสหรัฐอเมริกา

M280_Red_TOP

Author information

joker-master
"สู้กับคนอื่น เราอาจจะสร้างศัตรู" แต่ "สู้กับตัวเอง เราจะสร้างมิตรที่พึ่งพาได้ตลอดกาล"

ต้องใจรักเท่านั้น… Vizzywig 4K แอพถ่ายวิดีโอ 4K ตัวแรกสำหรับ iOS ราคาเบาๆแค่ 30,000 บาท

Posted: 15 Sep 2014 09:05 AM PDT

เป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่แฟนๆ iOS หลายๆคนถามหาครับ กับการถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ 4K บน iPhone ของเรา และวันนี้การรอคอยของท่านก็สิ้นสุดลงแล้วกับแอพอย่าง Vizzywig 4K แอพถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ 4K ตัวแรกบน iOS ที่เพิ่งเข้าสู่ Store แบบหมาดๆ

ความสามารถของแอพนี้ก็ตามชื่อครับคือการรองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ 4K ที่นอกจากจะใช้ถ่ายวิดีโอแล้ว ยังสามารถแก้ไขวิดีโอได้อีกด้วย

vizzywig-4k-screen_4

vizzywig-4k-screen_1

เจ้าแอพ Vizzywig 4K นี้ใช้หลักการทำงานคือ การถ่ายภาพความละเอียดสูง (8MP เต็มความละเอียดของกล้อง iPhone) ที่ความเร็ว 24 ภาพต่อวินาที หรือการใช้ประโยชน์จาก Burst mode ที่มีอยู่ใน iOS 7 และนำภาพทั้ง 24 เฟรมมารวมกันเป็นวิดีโอความละเอียดระดับ 4K นอกจากนี้เจ้าแอพ Vizzywig 4K นี้ยังแยกการบันทึกเสียงออกจากภาพเคลื่อนไหว ทำให้เราสามารถจัดการวิดีโอที่ถ่ายมาได้ภายหลัง แยกกันระหว่างภาพและเสียง

vizzywig-4k-screen_3

vizzywig-4k-screen_2

 

สิ่งที่ทำให้เจ้าแอพ Vizzywig 4K เป็นประเด็นขึ้นมาคือ ราคาของแอพที่สูงกว่าราคาของ iPhone เครื่องหนึ่งเสียอีกครับ เพราะแอพนี้วางจำหน่ายบน iTunes Store ที่ราคา 999 เหรียญหรือราว 30,000 บาท!!

น่าสนใจว่า Apple ซึ่งมีกฎและการตรวจสอบที่ขึ้นชื่อว่าเคร่งครัด จะปล่อยให้แอพที่ราคาสูงขนาดนี้ขึ้นสู่ Store ได้ง่ายๆ ซึ่งเมื่อเจ้าแอพนี้ได้ขึ้นสู่ Store แล้ว ก็น่าจะหมายความว่า Apple เองก็รับรองแอพนี้ในระดับหนึ่งเช่นกัน

 

ผู้สนใจก็สามารถดาวน์โหลดแอพนี้ได้จากที่นี่ครับ: Vizzywig 4K

** ข้อควรระวังสำหรับท่านที่จะซื้อแอพนี้คือ ตอนนี้ตัวแอพรองรับการใช้งานร่วมกับ iPhone 5s รุ่นความจุ 32 และ 64 GB เท่านั้น รวมถึงระบบปฏิบัติการที่ใช้ ต้องเป็น iOS 7 เท่านั้น ห้ามอัพเดทเป็น iOS 8 เด็ดขาด เนื่องจาก iOS 8 ยังมีข้อจำกัดที่ทำให้ Burst mode หรือโหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง ถ่ายได้เพียง 10 ภาพต่อวินาทีเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอต่อการสร้างวิดีโอแบบ 4K ครับ

 

ส่วนด้านล่างนี้เป็นตัวอย่างภาพถ่ายความละเอียดสูงที่ถ่ายด้วยแอพนี้ครับ (ดูภาพต้นฉบับได้ที่ที่มาของข่าวด้านล่าง)

vizzywig-4k-7-600x337

vizzywig-4k-8-600x337

 

ดาวน์โหลดแล้วก็อย่าลืม เอามารีวิวกับเราได้นะครับ… อย่างที่บอกครับ มีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้ ต้องใจรักเท่านั้น

 

 

 

ที่มา: Slashgear ผ่าน PhoneArena

 

 

Author information

Ton Panasit
Ton Panasit
Geek มือใหม่ อ่านข่าว IT เป็นกิจวัตร ใช้งานมือถือมาหลายระบบ แต่ตอนนี้ลงหลักปักฐานกับ windows phone…

Microsoft บรรลุข้อตกลงซื้อ Mojang สตุดิโอผู้ผลิตเกมส์ MineCraft ในราคากว่า 2,500 ล้านเหรียญ

Posted: 15 Sep 2014 08:34 AM PDT

เป็นข่าวใหญ่ข่าวหนึ่งสำหรับวันนี้เลยครับ กับข่าวที่ Microsoft ได้ประกาศการบรรลุข้อตกลง เข้าซื้อกิจการสตูดิโอ Mojang ผู้อยู่เบื้องหลังเกมส์ดังอย่าง MineCraft ไปในราคากว่า 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐหรือกว่า 80,000 ล้านบาท

MS_Minecraft-590x330

การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ ทำให้ Microsoft เป็นเจ้าของเกมส์ MineCraft และสตูดิโอผู้ผลิตเกมส์นี้ในทันที อย่างไรก็ดี ผู้อยู่เบื้องหลังเกมส์นี้ที่ก่อตั้งสตูดิโอ Mojang ขึ้นมาอย่างคุณ Markus "Notch" Persson และผู้ร่วมก่อตั้งอีก 2 คนจะออกจากบริษัทไปหลังการเข้าซื้อกิจการสิ้นสุดลงสิ้นปี 2014 นี้

Microsoft ดูจะมั่นใจในเกมส์ MineCraft เอามากๆ เพราะ Microsoft เชื่อมั่นว่าจะสามารถเรียกเงินลงทุนในการเข้าซื้อกิจการกว่า 2,500 ล้านเหรียญนี้กลับคืนมาได้ ภายในเดือนกรกฏาคม 2015

ซึ่งจากสถิติของเกมส์ MineCraft ที่เปิดตัวในปี 2009 และปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดกว่า 100 ล้านครั้ง (แค่บน PC เท่านั้น) ก็น่าจะการันตีความสำเร็จได้ในระดับหนึ่ง

minecraft-lead

 

แฟนๆเกมส์ MineCraft ก็ยังไม่ต้องตกใจไปครับ เพราะ Microsoft สัญญาว่า จะเดินหน้าพัฒนาเกมส์นี้ให้ลงในระบบปฏิบัติการต่างๆให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นบน PC, iOS, Android รวมถึงบนเครื่องเล่นเกมส์ของตัวเองอย่าง XBOX One และเครื่องของคู่แข่งอย่าง PlayStation ด้วย

 

…เอ๊ะ…รู้สึกว่าจะหายไประบบปฏิบัติการนึงนะครับ…. Windows phone หายไปไหน ?

 

 

ที่มา: Microsoft Site ผ่าน Engadget

 

Author information

Ton Panasit
Ton Panasit
Geek มือใหม่ อ่านข่าว IT เป็นกิจวัตร ใช้งานมือถือมาหลายระบบ แต่ตอนนี้ลงหลักปักฐานกับ windows phone…

Apple ทุบสถิติยอดสั่งจอง iPhone 6 สูงกว่า 4 ล้านเครื่องใน 24 ชั่วโมงแรก

Posted: 15 Sep 2014 08:07 AM PDT

อาจจะเป็นทั้งเรื่องที่น่าแปลกใจ และไม่น่าแปลกใจไปพร้อมๆกันสำหรับหลายๆคนครับ เมื่อ Apple ออกมาเผยตัวเลขยอดสั่งจองหรือยอด Pre-order ของมือถือรุ่นที่เพิ่งเปิดตัวไป อย่าง iPhone 6 และ iPhone 6 Plus

iPhone 6 Lead

โดยตัวเลขที่ Apple เผยออกมานี้ต้องบอกว่าเป็นตัวเลขที่ทุบสถิติหลายๆอย่างเลยทีเดียว โดย Apple ระบุว่ายอดสั่งจองหรือ Pre-order เจ้า iPhone 6 และ 6 Plus รวมกันแล้วสูงถึงกว่า 4 ล้านเครื่องใน 24 ชั่วโมง และตอนนี้ยอดสั่งจองเองก็เต็มไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Apple ไม่ได้แยกตัวเลขสั่งจองของ iPhone 6 แต่ละรุ่นมาให้เราได้ดูกันว่า รุ่นใดมียอดจองสูงกว่ากัน แต่เมื่อเทียบกับยอดสั่งจองในรุ่นก่อนหน้าอย่าง iPhone 5s แล้ว ต้องบอกว่า iPhone 6 ทำได้ดีกว่ามาก เพราะตอน iPhone 5 นั้น ยอด Pre-order อยู่ที่ราวๆ 2 ล้านเครื่อง

 

Apple คาดว่าจะเริ่มส่งมอบ iPhone 6 ให้กับลูกค้าที่ Pre-order ได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 19 กันยายนนี้ และเลยไปถึงช่วงเดือนตุลาคม สำหรับลูกค้าที่ไม่ได้สั่งจองล่วงหน้าก็จะมีสินค้าให้ที่หน้าร้าน Apple Store ที่สหรัฐอเมริกาตั้งแต่วันศุกร์ที่ 19 กันยายนนี้เช่นกัน

สำหรับลูกค้านอกสหรัฐอเมริกา iPhone 6 จะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 26 กันยายนนี้ ซึ่งมีประเทศในกลุ่มที่ 2 กว่า 22 ประเทศที่ iPhone 6 จะวางจำหน่าย

 

แต่น่าเสียดาย..ยังไม่มีประเทศไทยครับ

 

 

ที่มา: เว็บไซต์ Apple ผ่าน Engadget

 

Author information

Ton Panasit
Ton Panasit
Geek มือใหม่ อ่านข่าว IT เป็นกิจวัตร ใช้งานมือถือมาหลายระบบ แต่ตอนนี้ลงหลักปักฐานกับ windows phone…

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น