iPhone, iPad, Android, Windows Phone 8 เกมรีวิว แอพพลิเคชั่นรีวิว วิจารณ์ มือถือ ข่าวสารล่าสุด - APPDISQUS

---

• PR : เลอโนโวแนะนำวิธีแก้โรคปวดเมื่อยที่มาจากแท็บเล็ตด้วยเลอโนโว โยก้า แท็บเล็ต
• รีวิวแนะนำ: OPPO Neo 5 สมาร์ทโฟน 4G หน่วยประมวลผล 4 แกนในราคา 5,990 บาท มหากาพย์บทใหม่แห่งความคุ้มค่า
• Huawei Ascend Mate 7 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมหน้าจอ 6 นิ้ว Full-HD และเซ็นเซอร์แสกนลายนิ้วมือ
• เทียบสเปค Lumia 730, 830, 930 และฟังก์ชั่นที่ขาดหายไปของ Lumia 730, 830
• Samsung Galaxy Tab S กับหน้าจอ Super AMOLED แสนสวย มุมมองกว้าง คมชัดทุกองศา
• PR : เกมมือถือสุดน่ารัก Fantasista Doll ต้อนรับอีเวนท์ใหม่ครั้งใหญ่ แจกของเพียบ ทั้งผู้เล่นใหม่ ผู้เล่นเก่า
• [IFA 2014] วิดีโอย้อนหลัง งานเปิดตัว Lumia 730, 830, Lumia Denim และอุปกรณ์เสริมของ Microsoft
• PR : WeChat เปิดตัวแคมเปญใหม่ “WeChat Local Artist” เสริมศักยภาพศิลปินไทยสู่เวทีโลก รับเทรนด์โซเชียลเเชทแอพสุดฮิต เอาใจขาแชทด้วยสติกเกอร์ดุ๊กดิ๊กใหม่ 15 ชุด ผลงานจาก 15 ศิลปินชั้นแนวหน้าชาวไทย
• มาแล้วแอพ Lumia Selfie แอพสำหรับถ่ายภาพ Selfie สำหรับชาว Nokia Lumia
• [IFA 2014] Microsoft เปิดตัวอุปกรณ์เสริม Miracast receiver และ Wireless charging plate 2.0

PR : เลอโนโวแนะนำวิธีแก้โรคปวดเมื่อยที่มาจากแท็บเล็ตด้วยเลอโนโว โยก้า แท็บเล็ต Posted: 04 Sep 2014 11:46 PM PDT กำลังติดแท็บเล็ตอยู่ใช่ไหม นั่นทำให้คุณปวดเมื่อยหรือเปล่า เปลี่ยนมาใช้ เลอโนโว โยก้า แท็บเล็ตสิ อาการเหล่านั้นจะหมดไป กรงเทพฯ ประเทศไทย 3 กันยายน 2557 - ทุกวันนี้ผู้คนใช้เวลามากมายไปกับการใช้แท็บเล็ตอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ว่าจะมองไปที่ไหน ทั้งร้านกาแฟ รถไฟ หรือห้างสรรพสินค้า หรือแม้กระทั่งสมาชิกในบ้านของพวกคุณ เอะ หรือว่าพวกเขาเอากาวแปะแท็บเล็ตไว้กับมือกันนะ!   ด้วยความทีผู้ใช้ติดแท็บเล็ตมากยิ่งขึ้นทำให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆหันมาใส่ใจปัญหาด้านสุขภาพมากขึ้นอีกทั้งวิเคราห์หาสาเหตุของความเจ็บปวดตามจุดต่างๆภายในร่างกายจากการใช้แท็บเล็ต ไม่ว่าจะเป็น คอ ข้อมือ หรือส่วนอื่นๆ   ด้วยปรัชญาการออกแบบที่สร้างขึ้นจากแนวคิดที่เปี่ยมไปด้วยความเป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรม เลอโนโวได้สำรวจลักษณะการใช้งานของผู้ใช้ทั่วไปเพื่อนำมาปรับปรุงและออกแบบให้ได้เหมาะสมตามความต้องการ เป็นผลให้เกิดนวัตกรรมแห่ง โยก้า แท็บเล็ต ครั้งแรก กับแท็บเล็ตมัลติโหมดที่สร้างสรรค์ออกแบบมาได้ตรงกับความต้องการในการใช้งานอย่างแท้จริง   คุณเคยปวดเมื่อยจากการใช้งานแท็บเล็ตหรือคุณจำเป็นต้องใช้แท็บเล็ตในสถานการณ์ที่ลำบากต่อการใช่หรือไม่   นี่เป็นเคล็ดลับจากเลอโนโว ที่จะช่วยให้คุณสามารถใช้แท็บเล็ตได้อย่างลื่นไหลไม่สะดุด ถ้าคุณปวด ·         คอ ·         หัวไหล่ สาเหตุ ปกติแล้วคุณถือแท็บเล็ตอย่างไรละ? เพราะว่าแท็บเล็ตทั่วไปมีน้ำหนักมากถึง 0.7 กิโลกรัม ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่มักจะวางแท็บเล็ตได้ราบๆเพื่อการใช้งาน ซึ่งการวางแบบนั้นส่งผลเสียต่อคอเป็นอย่างมาก ทางเลือกที่นำมาแก้ปัญหานี้ก็คือ การวางแท็บเล็ตอย่างตั้งฉากเพื่อให้ไหล่ของคุณทั้งสองข้างได้ถูกใช้งานเท่าๆกัน วิธีการรักษา 1.    ถือแท็บเล็ตโดยเอียงให้ทำมุม 30 องศา เมื่อคุณต้องการพิมพ์ หรือใช้หน้าจอสัมผัส 2.    เคลื่อนไหวไปเรื่อยๆ เปลี่ยนตำแหน่งการจับเพื่อเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ   ไม่ลองไม่รู้ ใช้โยก้า แท็บเล็ตในโหมด HOLD ซึ่งเป็นโหมดสำหรับการถือใช้งานเครื่องในแนวตั้ง เพื่ออ่าน ช้อปออนไลน์ หรือเข้าถึงโซเชี่ยลเน็ตเวิค การออกแบบแบตเตอรี่ที่เป็นเอกลักษณ์ลักษณะรูปทรงกระบอกช่วยให้จับสะดวกสบาย โดยกำจัดแรงบิดในการถือ ทำให้เกิดสมดุลการกระจายน้ำหนักที่ไม่ซ้ำกัน ซึ่งทำรู้สึกมีน้ำหนักเบาและสะดวกสบายมากขึ้นสำหรับการใช้เป็นระยะเวลานาน ถ้าคุณปวด ·         นิ้วและฝ่ามือ ·         ข้อมือ ·         ต้นแขน   วิธีการรักษา หลายคนมักเคยชินกับการออกแรงพิมพ์และกดคีย์บอร์ดหรือเม้าส์แบบหนักๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ เดสท็อป ทำให้เมื่อให้หน้าจอทัชสกรีนบนแท็บเล็ตเกิดความเคยชินนี้ จึงกดน้ำหนักลงไปแรงเช่นกัน การกดน้ำหนักที่นิ้วมือและข้อมือแรงเกินไปเป็นระยะเวลานานส่งผลให้เกิดโรคกล้ามเนื้อฉีกขาดได้ วิธีการรักษา 1.     ขณะที่คุณพิมพ์หรือใช้หน้าจอสัมผัสควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมือของคุณตั้งตรง ขนณะเดียวกันแขนและนิ้วของคุณก็ควรอยู่ในลักษณะที่ผ่อนคลาย 2.     ลงทุนซื้อบลูทูธคีย์บอร์ดเพิ่ม เพื่อการพิมพ์ที่ง่ายขึ้นเมื่อสร้างคอนเท็นต์ที่มีเนื้อหามาก   รู้หรือไม่ ใน TILT โหมด หรือโหมดวางนอนของโยก้า แท็บเล็ต แบตเตอรี่ทรงกระบอกของเครื่องนั้นถูกออกแบบมาให้ทำมุมสะดวกสบายต่อการท่องเว็ป เล่นเกมส์ หรือพิมพ์ข้อความต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์คีย์บอร์ดเสริม เพื่อช่วยให้การพิมพ์ของคุณง่ายดายยิ่งขึ้น ถ้าคุณปวด ·         ตา ·         ศรีษะ   สาเหตุ ตัวหนังสือเล็กเกินไป ภาพแสดงผลไม่ชัดเจน ภาพสะท้องมาที่ดวงตามากเกินไป ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลให้การรับภาพทางสายตาเกิดปัญหา และส่งผลไปถึงสมอง ทำให้รู้สึกปวดศรีษะได้ วิธีการรักษา 1 ซิงค์แท็บเล็ตเข้ากับคอมพิวเตอร์เพื่อเพิ่มขนาดหน้าจอ 2 เพิ่มขนาดตัวอักษรที่แสดงบนแท็บเล็ต 3 ปรับการตั้งค่าความสว่างของหน้าจอแท็บเล็ต 4 กระพิบดวงตาของคุณ!   รู้หรือไม่ เอกลักษณ์ของโยคะแท็บเล็ต ในโหมดตั้งตรงหรือ STAND โหมดช่วยให้ผู้ใช้สะดวกสบายและเพลิดเพลินเป็นอย่างมาก กับการรับชมวีดีโอ การแชท และการฟังเพลง ของคุณจะง่ายดายโดยไม่จำเป็นต้องใช้มือคอยจับอีกต่อไป ณไบรโอนี่ เคท สมิธให้เกียรติมาสอนโยคะในงาน โยก้า แท็บเล็ต ที่จัดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้เพื่อสาธิตโยคะในท่าพื้นฐานต่างๆสำหรับชีวิตประจำวันเหมือนโยก้า แท็บเล็ตที่ปรับเปลี่ยนได้หลายโหมด ตรงความต้องการของผู้ใช้งานในทุกอิริยาบถ ราคาและการวางจำหน่าย เลอโนโว โยก้า แท็บเล็ต หน้าจอขนาด 8 นิ้ว พร้อมวางจำหน่ายที่ราคา 8,990 บาท เลอโนโว โยก้า แท็บเล็ต หน้าจอขนาด 10 นิ้ว พร้อมวางจำหน่ายที่ราคา 11,490 บาท (ฟรีคีย์บอร์ด) เลอโนโว โยก้า แท็บเล็ต หน้าจอขนาด 10 นิ้ว HD พร้อมวางจำหน่ายที่ราคา 13,990 บาท (ฟรีคีย์บอร์ด)   รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับเลอโนโวได้ทาง RSS feeds หรือติดตามได้ใน Twitter และ Facebook หรือสอบถามข้อมูลด้านผลิตภัณฑ์ที่ http://lenovothailand.com/ โทร. 02-689-6451 หรือ โทรฟรีที่ 1800 Author information joker-master "สู้กับคนอื่น เราอาจจะสร้างศัตรู" แต่ "สู้กับตัวเอง เราจะสร้างมิตรที่พึ่งพาได้ตลอดกาล" TwitterFacebook

รีวิวแนะนำ: OPPO Neo 5 สมาร์ทโฟน 4G หน่วยประมวลผล 4 แกนในราคา 5,990 บาท มหากาพย์บทใหม่แห่งความคุ้มค่า Posted: 04 Sep 2014 10:28 PM PDT รีวิวแนะนำ: OPPO Neo 5 สมาร์ทโฟน 4G หน่วยประมวลผล 4 แกนในราคา 5,990 บาท มหากาพย์บทใหม่แห่งความคุ้มค่า หาซื้อได้ตามศูนย์บริการของ dtac เท่านั้น OPPO Neo 5 น้องใหม่มาแรงจาก OPPO ในราคาค่าตัวเพียง 5,990 บาท แต่ฟีเจอร์ของสมาร์ทโฟนเครื่องนี้ต้องบอกว่าจัดมาให้แบบเกินราคา ไม่ว่าจะว่าเป็นการรองรับ 4G บน dtac TriNet ที่ให้ความเร็วและความเสถียรในการถ่ายโอนข้อมูลสูงกว่าเครือข่าย 3G เลือกใช้ CPU 4 แกนประมวลผลรุ่น Qualcomm Snapdragon 400 ความเร็ว 1.2GHz กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช และกล้องหน้า 2 ล้านพิกเซลที่มาพร้อมโหมดการถ่ายหน้าเนียนแบบ Beauty Plus ถึงจะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นราคาย่อมเยา แต่ก็ได้ภาพถ่าย Selfie ฟรุ๊งฟริ๊งสวยๆ หล่อๆ ไว้อวดเพื่อนในโซเชียลเน็ตเวิร์กแน่นอน OPPO Neo 5 ขนาดหน้าจอ 4.5" IPS-LCD ความละเอียดหน้าจอ 854×480 ระบบปฏิบัติการ Color OS 1.4 (Android 4.2) CPU Qualcomm Snapdragon 400 – Quad Core 1.2GHz RAM / หน่วยความจำภายใน 1GB / 4GB (ขยายเพิ่มได้สูงสุด 32GB ด้วยการ์ด micro SD) กล้องหน้า / หลัง 5MP (มีแฟลช) / 2MP เครือข่าย 3G 850 / 900 / 2100MHz เครือข่าย 4G รองรับ Battery 1,900mAh สีให้เลือกซื้อ ขาว, ดำ ราคา 5,990 บาท   เรียบหรู ดูดี OPPO Neo 5 มาในขนาดหน้าจอ 4.5 นิ้ว ขนาดตัวเครื่องกะทัดรัดกว่าสมาร์ทโฟนระดับจอ 5 นิ้วอยู่ไม่น้อย ทำให้เหมาะมากสำหรับคนที่เลือกซื้อสมาร์ทโฟนโดยให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายในการพกพาเป็นหลัก จากการลองใช้งานก็ประทับใจกับความกะทัดรัดของเจ้า OPPO Neo 5 อยู่ไม่น้อย สามารถถือตัวเครื่องใช้งานได้ด้วยมือข้างเดียวแบบสบายๆ ไม่ต้องใช้ 2 มือช่วยกันประคองตัวเครื่องเหมือนอย่างสมาร์ทโฟนหน้าจอโตๆ และขนาดหน้าจอ 4.5 นิ้วก็ไม่ได้รู้สึกว่าเล็กเกินไปสำหรับการแชท หรือการใช้งานทางด้านโซเชียลเน็ตเวิร์กแต่อย่างใด รูปร่างหน้าตาของ OPPO Neo 5 ก็ดูดีเกินราคา โดยออกแบบให้มีความโค้งมนทั้งในส่วนขอบบน ขอบล่าง และแผ่นหลังของตัวเครื่อง ผิวของตัวเครื่องออกโทนสีขาวมุกที่สวยดูดีอยู่ไม่น้อย คาดขอบด้านบนและล่างของตัวเครื่องด้วยแถบสีเงินสะท้อนแสงเงาวับ เป็นรายละเอียดการออกแบบที่ช่วยเติมแต่งความงามให้กับ OPPO Neo 5 ได้อย่างลงตัว ในส่วนของการประกอบตัวเครื่องทำได้แข็งแรงแน่นหนาดี ไม่มีจุดใดของตัวเครื่องที่เกิดอาการหลวมคลอนหรือประกอบกันเข้าไม่สนิท  ขอบด้านบนตัวเครื่องมีการคาดแถบสีเงินเงางาม และเป็นตำแหน่งของช่องเสียบสายหูฟัง บริเวณเหนือจอ LCD เป็นตำแหน่งของช่องลำโพงสำหรับการสนทนาโทรศัพท์ และกล้องหน้าขนาดความละเอียด 2 ล้านพิกเซล การสนทนาโทรศัพท์ด้วย OPPO Neo 5 ให้เสียงที่ชัดเจนดีทั้ง 2 ฝ่าย ไม่มีปัญหาเสียงเบาหรือเสียงก้อง  ขอบด้านล่างตัวเครื่องคาดแถบสีเงินเช่นเดียวกัน และเป็นตำแหน่งของช่องพอร์ต USB บริเวณใต้จอ LCD เป็นตำแหน่งของปุ่ม Menu, Home และ Back ขอบซ้ายตัวเครื่องเรียบง่าย มีเพียงปุ่ม Power เปิด/ปิด หน้าจอ ปุ่มเร่ง/ลดเสียงอยู่บนขอบขวาของตัวเครื่อง ช่องลำโพงสำหรับการดูหนังฟังเพลงวางตำแหน่งอยู่บนฝาหลังตัวเครื่อง ซึ่งการเปิดฟังเพลงผ่านลำโพงอาจวางตัวเครื่องในลักษณะคว่ำหน้าจอลงกับพื้น เพื่อไม่ให้เสียงที่ออกจากช่องลำโพงโดนปิดทับ เมื่อแกะฝาหลังออกพบกับก้อนแบตเตอรี่ขนาดความจุ 1,900mAh แบบถอดเปลี่ยนได้ พร้อมช่องเสียบซิมการ์ดแบบ micro SIM และช่องเสียบการ์ดหน่วยความจำ micro SD (อยู่ทางด้านซ้ายของช่องเสียบซิมการ์ด) ด้วยขนาดหน้าจอ 4.5 นิ้วต้องบอกว่าเหมาะมือมากๆ จับถือตัวเครื่องได้ถนัดเต็มมือ และใช้งานตัวเครื่องได้สะดวกด้วยมือข้างเดียว จัดเต็มโปรโมชั่น 4G รายเดือนของ dtac TriNet ลดค่าบริการ 50% ใครที่สนใจสมาร์ทโฟน 4G ราคาเบาๆ สามารถหาซื้อ OPPO Neo 5 ได้จาก Shop ของ dtac หรือสั่งซื้อได้จากลิงค์นี้ ในราคาเพียง 5,990 บาท พร้อมรับสิทธิพิเศษกับโปรโมชั่นลดราคาค่าแพ็กเกจรายเดือน 4G ของ dtac TriNet อาทิ แพ็กเกจ Smartphone Device 4G 799 (โทร 350 นาทีทุกเครือข่าย, 3G/4G ไม่จำกัด 3 GB และเล่น WiFi ได้ไม่จำกัด) ที่ตามปกติแพ็กเกจนี้มีค่าบริการรายเดือน 799 บาท แต่เมื่อซื้อ OPPO Neo 5 ค่าบริการลดลงเหลือเพียง 399 บาท เป็นระยะเวลา 12 เดือน และดูรายละเอียดอื่นๆ ของโปรโมชั่นลดค่าบริการรายเดือน 50% ของ dtac TriNet ได้จากลิงค์ นี้ OPPO Neo 5 เป็นสมาร์ทโฟนราคาเบาๆ ที่รองรับอนาคตได้เป็นอย่างดีด้วยความสามารถในการเชื่อมกับระบบเครือข่าย 4G ที่นอกจากจะให้ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลที่สูงกว่า 3G แล้ว (ความเร็วสูงสุดตามทฤษฎีของ 3G อยู่ที่ 42Mbps และ 4G อยู่ที่ 100Mbps) ระบบ 4G ยังให้ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลที่นิ่งและเสถียรกว่า ทำให้การสตรีมมิ่งสื่อมัลติมีเดียอย่างเช่นการเปิดดูคลิปวิดีโอความละเอียดสูง ทำได้ราบรื่นดีกว่าการเชื่อมต่อผ่านระบบ 3G โดยในขณะนี้เครือข่าย 4G ของ dtac TriNet มีให้บริการอยู่ในย่านใจกลางกรุงเทพฯ อาทิ สยาม, ชิดลม, สีลม, ทองหล่อ, เอกมัย รวมถึงถนนสายสำคัญหลักๆ อาทิ พระราม 4, สาทร, สีลม, สุขุมวิท, พระราม 9, รัชดาฯ และบางส่วนของเส้นทางรถไฟฟ้า BTS, MRT, Airport Link และมีให้บริการในศูนย์การค้าใจกลางเมือง อาทิ  Terminal 21, เซ็นทรัลเวิลด์, มาบุญครอง, เซ็นทรัลพระราม 9, สยามสแควร์, เอสพลานาด, สยามพารากอนคอมเพล็กซ์ และเดอะ แพลตินั่ม แฟชั่น มอลล์ ใช้งานสะดวกด้วย Color OS 1.4 เพิ่มความสะดวกคล่องตัวในการใช้งานด้วยระบบปฏิบัติการ Color OS 1.4 (บนพื้นฐานของ Android 4.2) ที่มีอยู่ใน OPPO Neo 5 สามารถเรียกใช้งานแอพต่างๆ ในขณะที่หน้าจอยังปิดอยู่ได้อย่างง่ายดายด้วยฟีเจอร์ Gesture Control เช่นการเรียกแอพ Line ได้อย่างรวดเร็วแค่เพียงลากเส้นตรงในขณะที่หน้าจอปิดอยู่ หรือเรียกใช้งานกล้องได้อย่างรวดเร็วด้วยการวาดวงกลมบนหน้าจอเป็นต้น ไม่ต้องเสียเวลาเปิดหน้าจอแล้วไล่หาแอพที่ต้องการใช้งานเหมือนสมาร์ทโฟนทั่วๆ ไป ซึ่งการสั่งงานแบบ Gesture Control สามารถใช้งานได้ทั้งในขณะที่หน้าจอปิดหรือเปิดอยู่ และกำหนดรูปแบบการสั่งงานได้อย่างอิสระ ดูหนังดี ฟังดนตรีสนุก โดยปกติสมาร์ทโฟนระดับราคาย่อมเยามักจะทำให้นักฟังเพลงผิดหวัง แต่ไม่ใช่กับ OPPO Neo 5 เพราะต้องบอกว่าคุณภาพเสียงของมันเป็นอะไรที่เกินความคาดหมายไปไกลพอควร สำหรับการฟังเพลงด้วยชุดหูฟังอื่นที่ไม่ใช่ Small Talk ของ OPPO แนะนำให้เข้าไปในส่วนการตั้งค่าของแอพฟังเพลง แล้วเลือกปิดเอฟเฟ็คเสียง Dirac HD เพื่อที่จะได้สัมผัสกับคุณภาพเสียงที่แท้จริงของ OPPO Neo 5 ทดสอบด้วยการฟังเพลงหลากหลายแนว พบว่าบุคลิกเสียงของ OPPO Neo 5 ออกไปในโทนปลอดโปร่งกระจ่างใส น่าจะถูกใจคนที่ชอบฟังเพลงแนวป๊อปใสๆ ฟังง่ายๆ สบายๆ ถ่ายทอดรายละเอียดของเสียงร้องได้น่าฟัง ในขณะที่เสียงเครื่องดนตรีในช่วงเสียงสูงก็ถ่ายทอดออกมาได้สดใสกระจ่างชัดดี โดยเฉพาะเสียงอะคูสติกกีตาร์ที่ถ่ายทอดรายละเอียดของแต่ละตัวโน้ตออกมาได้ชัดเจนดีมากๆ โทนเสียงเบสทุ้มต่ำมีน้ำมีนวลกำลังดี ฟังเพลงแดนซ์ได้สนุก เป็นสมาร์ทโฟนราคาเบาๆ ที่เปิดเพลงฟังแล้วมีความสุข แอพเล่นเพลงในตัวเครื่องออกแบบมาให้มีรูปร่างหน้าตาคลาสสิคในแบบของเครื่องเล่นแผ่นเสียง และมีลูกเล่นอย่างการเปลี่ยนเพลงด้วยการสวิงตัวเครื่องไปทางซ้าย/ขวา และการแตะ 2 นิ้วรูดขึ้น/ลงบนหน้าจอเพื่อการเร่ง/ลดเสียง ก็ช่วยทำให้การฟังเพลงสะดวกขึ้น หน้าจอขนาด 4.5 นิ้วความละเอียด 854×480 จุด ให้การแสดงผลที่ละเอียดเนียนตาน่าพอใจ แสดงตัวอักษรขนาดเล็กๆ บนหน้าเว็บได้อย่างคมชัดอ่านง่าย เรื่องความสามารถในแสดงสีสันถือว่าทำได้ดีมากเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนอื่นๆ ในระดับราคาเดียวกัน แม้ความละเอียดในการไล่ระดับโทนสีอ่อนแก่จะไม่เทียบเท่าสมาร์ทโฟนรุ่นท็อป แต่ก็แสดงสีสันออกมาได้อย่างอิ่มเข้มสดใสสวยงามน่าประทับใจ ใช้เปิดดูภาพถ่าย ภาพจากเว็บไซต์ หรือภาพที่เพื่อนๆ แชร์กันในโซเชียลเน็ตเวิร์กได้สวยงามมีชีวิตชีวาดี ตอบรับความบันเทิงจากการเปิดดูคลิปวิดีโอความละเอียดสูงระดับ Full HD ได้อย่างลื่นไหลและเนียนตา ดูคลิปวิดีโอได้เพลินๆ ดี ราคาเบาๆ แต่แรงติดนิ้วด้วย CPU Quad Core อีกหนึ่งจุดเด่นของ OPPO Neo 5 ที่นอกเหนือจากการรองรับระบบ 4G คือชิปประมวลผล 4 แกน Qualcomm Snapdragon 400 ความเร็ว 1.2GHz และแรมขนาด 1GB ซึ่งเป็นสเปกที่แรงเกินราคาค่าตัวอยู่ไม่น้อย และจากผลการทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอพ AnTuTu Benchmark ก็ทำคะแนนไปได้สูงถึง 17,518 แต้ม และกับผลการทดสอบด้วยแอพ Quadrant Standard Edtion ก็ทำคะแนนไปได้ถึง 8,195 แต้ม นับว่ามีประสิทธิภาพแรงเกินราคาค่าตัว และจากการลองใช้งานจริง OPPO Neo 5 ก็ตอบสนองการสั่งงานได้รวดเร็วดี ไม่ว่าจะเป็นการเปิดสลับแอพไปมา รวมถึงการใช้แอพ Chrome เปิดหน้าเว็บเพจ หน้าเว็บบอร์ดต่างๆ ก็ตอบสนองได้ทันใจดี เป็นสมาร์ทโฟนที่เล่นได้ติดนิ้วในราคาเบาๆ เล่นเกมเพลินๆ OPPO Neo 5 ตอบสนองความบันเทิงจากการเล่นเกมได้อย่างน่าพอใจ เราลองติดตั้งและเล่นเกมเล็กๆ ที่ติดอันดับ Top Hits ที่คนส่วนใหญ่นิยมเล่นกันอย่างเกม Hungry Shark Evolution , Clash of Clans และเกม LINE เกมเศรษฐี ผลออกมาว่าสามารถเล่นเกมทั้ง 3 ได้อย่างลื่นไหล ไม่มีอาการกระตุกระหว่างเล่น สีสันและกราฟิกต่างๆ ภายในเกมก็ถ่ายทอดออกมาได้สดใสสวยงามดี แต่ด้วยขนาดของหน่วยความจำในตัวเครื่องที่ค่อนข้างเล็ก อาจไม่เหมาะกับการเล่นเกมที่มีขนาดใหญ่เกิน 100MB จัดการพื้นที่เก็บข้อมูลให้ลงแอพได้จุใจ หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง OPPO Neo 5 ที่มีขนาด 4GB ได้ถูกใช้ไปสำหรับการติดตั้งระบบปฏิบัติการของเครื่องแล้วถึง 2.29GB ทำให้เหลือเนื้อที่ไม่มากนักสำหรับการติดตั้งแอพ แต่เราสามารถจัดการกับปัญหานี้ได้เพื่อให้ติดตั้งแอพได้จำนวนมากขึ้น โดยการย้ายแอพบางตัว (ที่สามารถย้ายได้) ไปเก็บไว้ในการ์ด micro SD (รองรับการ์ดขนาดใหญ่สุด 32GB) และอีกวิธีการหนึ่งที่ทำให้เกิดพื้นที่ว่างในหน่วยความจำของตัวเครื่อง เพื่อให้รองรับการติดตั้งแอพได้มากขึ้นคือ การล้างหน่วยความจำแคชของแอพต่างๆ ที่มีติดตั้งอยู่ในเครื่อง โดยเรามีแอพทางด้านการจัดการพื้นที่เก็บข้อมูลที่อยากแนะนำให้ติดตั้งใช้งาน คือแอพที่มีชื่อว่า AppMgr III ที่สามารถหาติดตั้งลงในเครื่องได้จาก Google Play Store โดยที่ AppMgr III จะช่วยทำให้การย้ายแอพไปการ์ด micro SD และการเคลียร์หน่วยความจำแคชให้กลายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น เชื่อมต่อไร้ขีดจำกัดด้วย OTG เพิ่มความคล่องตัวในการใช้งานสมาร์ทโฟนด้วย USB OTG (On-The-Go) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีอยู่ใน OPPO Neo 5 ทำให้สามารถเชื่อมต่อแฟลชไดร์ฟ, ตัวอ่านการ์ดหน่วยความจำ หรือแม้แต่กล้องดิจิตอลเข้ากับสามาร์ทโฟน เพื่อใช้สมาร์ทโฟนจัดการ Copy ไฟล์จากสื่อเก็บข้อมูลเหล่านั้น มาเก็บไว้ในสมาร์ทโฟนได้โดยตรง (สาย USB OTG ต้องแยกซื้อต่างหาก ไม่มีแถมให้พร้อมกับตัวเครื่อง) ตัวอย่างการใช้งานเช่น Copy ไฟล์เพลงจากแฟลชไดร์ฟมาใส่ OPPO Neo 5 โดยตรง หรือ Copy ภาพถ่ายจากเมโมรี่การ์ดของกล้องดิจิตอลมาใส่ OPPO Neo 5 ได้โดยตรง ไม่ต้องเสียเวลาโอนไฟล์ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ USB OTG ยังทำให้สามารถนำอุปกรณ์ USB หลากหลายรูปแบบมาใช้งานกับสมาร์ทโฟนได้ ไม่ว่าจะเป็น เมาส์ คีย์บอร์ด หรือจอยสติ๊กสำหรับการเล่นเกมเป็นต้น   กล้อง 5 ล้านก็ถ่ายภาพแจ่ม กล้องหลังขนาด 5 ล้านพิกเซลที่มีระบบ Auto Focus ของ OPPO Neo 5 ก็มีดีไม่ใช่น้อย รองรับการถ่ายภาพกลางแจ้งได้อย่างสวยงาม ให้ภาพที่คมชัด ถ่ายทอดสีสันอิ่มเข้มสวยงาม เทคนิคการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ให้สวยงามด้วย OPPO Neo 5 คือ การเลือกจุดโฟกัสมีส่วนสำคัญมากกับระดับความสว่างของภาพ เช่นถ้าภาพถ่ายออกมามืดเกินไป ให้ถ่ายใหม่โดยเลือกโฟกัสที่ส่วนมืดของภาพ ภาพที่ได้ก็จะสว่างขึ้น แต่ในกรณีที่ถ่ายภาพออกมาแล้วสว่างเกินไป ให้ถ่ายใหม่โดยเลือกโฟกัสที่ส่วนสว่างของภาพ ความสว่างของภาพถ่ายก็จะลดลงจนอยู่ในระดับที่พอดี เชิญชมตัวอย่างภาพถ่ายสวยๆ จาก OPPO Neo 5 ได้เลยครับ กับการถ่าย Macro ดอกไม้ด้วยกล้องของ OPPO Neo 5 ก็เป็นอะไรน่าสนุก และให้ผลงานออกมาสวยงามน่าพอใจ การถ่ายแบบเก็บแสงสีสวยๆ ยามค่ำคืน ผลงานก็ออกมาดีทีเดียว ฟรุ๊งฟริ๊งได้ไม่อายใคร แม้จะเป็นสมาร์ทโฟนราคาเบาๆ ที่มาพร้อมกับกล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล แต่อย่าได้ดูถูกพลังฟรุ๊งฟริ๊งของ OPPO Neo 5 เป็นอันขาด ลองของจริงด้วยการถ่าย Selfie ผ่านกล้องหน้าในโหมด Beauty Plus (เข้าโหมด Beauty Plus โดยการเข้าแอปกล้อง แล้วแตะปุ่ม 3 จุดที่อยู่ตรงมุมล่างขวาหน้าจอ แล้วเลือก Beauty) ผลออกมาตามภาพ หน้าเนียนใสฟรุ๊งฟริ๊ง หล่อเกินตัวจริงไปหลายสเตป ถ่ายแล้วเอาภาพหล่อๆ สวยๆ ไปแชร์อวดเพื่อนในโซเชียลเน็ตเวิร์กได้สบายๆ   บทสรุป OPPO Neo 5 OPPO Neo 5 ตอบโจทย์ได้ครบทั้งในเรื่องของคุณภาพเสียง คุณภาพการแสดงผลของจอภาพ คุณภาพของกล้อง ประสิทธิภาพการทำงานที่แรงติดนิ้วด้วย 4 แกนประมวลผล และรองรับระบบ 4G ในราคาค่าตัวเพียง 5,990 บาท เหมาะมากสำหรับคนที่มองหาสมาร์ทโฟนเครื่องแรก หรือต้องการอัพเกรดมาใช้งานสมาร์ทโฟน 4 แกนประมวลผลในราคาที่ไม่แพง ใครกำลังมองหาสมาร์ทโฟนในงบ 6,000 บาทไม่ควรมองข้าม OPPO Neo 5 ด้วยประการทั้งปวง จุดเด่นของ OPPO Neo 5 * รองรับ 4G ในราคาค่าตัวเพียง 5,990 บาท * มีโปรโมชั่นลดค่าบริการรายเดือน 4G ของ dtac TriNet ลง 50% * ใช้งานสะดวกด้วย Color OS * ฟรุ๊งฟริ๊งด้วยโหมดการถ่าย Beauty Plus * ประสิทธิภาพคุ้มราคา Author information Noppinij ทุกๆ การกระทำของผู้คนบนโลกนี้ ส่งผลต่อคนรอบข้างโดยทั้งหมดทั้งสิ้น แม้แต่เวลาที่คุณหายใจ TwitterFacebook

Huawei Ascend Mate 7 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมหน้าจอ 6 นิ้ว Full-HD และเซ็นเซอร์แสกนลายนิ้วมือ Posted: 04 Sep 2014 08:50 PM PDT ในงาน IFA เรียกได้ว่าเป็นงานที่แย่งวีนกันของแต่ละงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนอย่างแท้จริงเพราะว่าในงานนี้มีแบรนด์ระดับแนวหน้ามาร่วมด้วยทั้งนั้นเช่น Samsung กับ Sony  แค่ต่างเวลากันแค่นั้นเอง ไม่งั้นรับรองว่าชนกันนัวเนียเลย Huawei ก็เป็นอีกแบรนด์ที่มาร่วมงานนี้ด้วยด้วยการเปิดตัว Huawei Ascemd Mate 7 ที่มีจุดเด่นคือหน้าจอใหญ่ยักษ์ 6 นิ้ว Full-HD , บางเพียง 7.9 มม.  , CPU Huawei Kirin 925 , แบ่งเป็น A15 1.8GHz 4 cores และ A7 1.3GHz อีก 4cores สเปคของ Huawei Ascend Mate 7 : Display: 6-inch FHD IPS LCD display, 368PPI CPU: Kirin 925 CPU – 4 x A15 1.8 GHz quad-core and 4 x A7 1.3 GHz GPU: Mail T628 RAM: 2GB Storage: 16GB with microSD slot (up to 32GB) Rear cam: 13MP CMOS camera Front cam: 5MP CMOS camera Battery: 4100 mAh Li-Polymer Dimensions: 157mm x 81mm x 7.9mm Sensors: Accelerometer, Proximity sensor, Ambient light sensor, Compass, G-sensor, Gyroscope, Hall sensor, GPS / AGPS Fingerprint scanner integrated Bluetooth 4.0, Wifi 802.11 a/b/g/n, NFC support LTE Cat 6 support Android 4.4 KitKat Colors: Obsidian black(ดำ), Moonlight silver(เงิน), Amber gold(ทอง) นอกจากสเปคที่จัดเต็มดีมาก ยังมีเซ็นเซอร์แสกนนิ้วมืออีกด้วย ที่รองรับการบันทึกลายนิ้วมือสูงสุด 5 นิ้ว. แล้วยังมี2โหมดให้เลือกคือ Normal mode กับ Guest mode ส่วนลายนิ้วมือทั้งหลายก็จะถูกเก็บไว้ในชิปเซ็ตที่ชื่อว่า  ARM TrustZone ซอฟแวร์ของ Ascend mate 7 ใช้ EMUI 3.0 ที่เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดของ Huawei UI ที่มีการเปลี่ยนหน้าตาให้สวยงามขึ้นครับ ส่วนสถานที่ๆจะวางขาย Mate 7 จะมีมากกว่า 30 ประเทศรวมทั้งประเทศจีน , เยอรมนี , สหราชอาณาจักร , อิตาลี , ฝรั่งเศส และสเปน ส่วนราคาขายคาดว่าจะอยู่ประมาณ 499 ยูโรไม่ก็ $651 แต่ยังไม่มีกำหนดบอกว่าจะขายในอเมริกาด้วยหรือไม่ Credit : androidauthority Author information BoomRazen สมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในโลกมันไม่มีอยู่จริง Facebook

เทียบสเปค Lumia 730, 830, 930 และฟังก์ชั่นที่ขาดหายไปของ Lumia 730, 830 Posted: 04 Sep 2014 10:03 AM PDT สืบเนื่องจากที่วันนี้ Microsoft เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่อีก 2 รุ่นอย่าง Nokia Lumia 730 และ 830 ซึ่งในแง่ของสเปคในหลายๆทาง มือถือใหม่ทั้ง 2 รุ่นนั้นเน้นที่ความคุ้มค่า กับราคาที่เปิดตัวออกมาได้อย่างน่าสนใจ และเมื่อเราพูดถึงความคุ้มค่า ก็ต้องมามองกันต่อไปว่าด้วยเงินที่จ่ายไปนั้น เราได้อะไรจากมันบ้างครับ เพราะฉะนั้นทีมงาน AppDisqus เลยขอเปรียบเทียบมือถือรุ่นใหม่ทั้ง 2 รุ่นแบบ side-on-side และขอข้ามรุ่นไปเทียบชั้นกับเรือธงในปัจจุบันอย่าง Lumia 930 ด้วยว่า สเปคมือถือทั้ง 3 รุ่นนั้น มีความแตกต่างกันในด้านใดบ้าง คลิกที่รูปเพื่อขยายเลยครับ   จากตารางจะเห็นว่า Lumia 830 ที่เป็นมือถือระดับราคาไม่สูงมากนั้น มีสเปคที่น่าสนใจและดูคุ้มค่าเอามากๆ ถึงแม้จะมาด้วยชิปเซ็ทรุ่นกลาง แต่ด้วยระบบปฏิบัติการ Windows phone ที่ไม่ต้องการสเปคเครื่องที่สูงมากนัก ก็น่าจะทำให้เจ้า Lumia 830 ตอบสนองการทำงานได้ดีในระดับที่น่าพอใจ และสเปคด้านอื่นๆ รวมถึงคุณสมบัติที่เคยมีเฉพาะในมือถือระดับบนอย่างเทคโนโลยี PureView หรือแม้แต่การออกแบบเครื่องที่ใช้ขอบอลูมิเนียมแบบในมือถือรุ่นบน ทำให้เจ้า Lumia 830 เป็นมือถือรุ่นที่น่าจับตารุ่นหนึ่งเลยทีเดียว หรือแม้แต่กับ Lumia 730 เอง ที่มาพร้อมกับชิปเซ็ทตัวเดียวกับ Lumia 830 แต่กล้องหน้าที่ความละเอียดสูงถึง 5 MP และรองรับการชาร์จแบบไร้สายในตัว กับราคาเปิดตัวที่เมืองนอกซึ่งดูจะไม่เกิน 10,000 บาทนั้น ทำให้เจ้า Lumia 730 เองก็เป็นรุ่นที่น่าจะครองใจแฟนๆ Windows phone ได้ไม่ยาก   เรียกว่า ตลาดมือถือระดับกลางของ Windows phone คึกคักขึ้นอีกรอบ หลังจากที่ห่างหายไปนาน ตั้งแต่ Nokia Lumia 720 เปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมาครับ     นอกจากการเปรียบเทียบสเปคแล้ว เรายังนำเอาคุณสมบัติที่ขาดหายไปของ Lumia รุ่นใหม่ทั้ง 2 รุ่น เมื่อเทียบกับมือถือรุ่นเรือธงอย่าง Lumia 930 มาให้เพื่อนๆได้อ่านกันอีกด้วย   จะเห็นว่า Lumia 830 เอง มีฟังก์ชั่นที่ไม่หนีไปจากมือถือเรือธงในปัจจุบันนัก หลักๆที่ต่างออกไปคือ การรองรับเทคโนโลยี dolby surround ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจนัก เพราะค่าลิขสิทธิ์เทคโนโลยีนี้มีราคาพอสมควร การตัดออกไปเพื่อรักษาราคาของเจ้า Lumia 830 ให้เรียกความสนใจของผู้ใช้ได้ ก็ต้องยอมแลกกับคุณสมบัติที่ไม่จำเป็นมากนักเช่นกัน เพื่อนๆเห็นว่าอย่างไรครับ? ถูกใจรุ่นไหนกันบ้างครับ     ที่มา: WPCentral   Author information Ton Panasit Geek มือใหม่ อ่านข่าว IT เป็นกิจวัตร ใช้งานมือถือมาหลายระบบ แต่ตอนนี้ลงหลักปักฐานกับ windows phone… Facebook

Samsung Galaxy Tab S กับหน้าจอ Super AMOLED แสนสวย มุมมองกว้าง คมชัดทุกองศา Posted: 04 Sep 2014 09:01 AM PDT Samsung Galaxy Tab S รอบนี้ทาง Samsung ให้ทาง AppDisqus ยืมเครื่องมานานมากๆครับ ทำให้เรามีโอกาสทดสอบเจ้า Samsung Galaxy Tab S อย่างเต็มอิ่มเลย โดยในบทความนี้ก็จะยังคงพูดถึงหน้าจอ Super AMOLED ความละเอียดสูงถึง 1600 x 2560 pixels ของเจ้า Samsung Galaxy Tab S กันครับโดยทั้ง Samsung Galaxy Tab S 8.4 และ Samsung Galaxy Tab S 10.5 นั้นจะมีความละเอียดหน้าจอเท่ากันทำให้ Samsung Galaxy Tab S 8.4 จะมีความหนาแน่นของหน้าจอสูงถึง 359 ppi และ Samsung Galaxy Tab S 10.5 จะมีความหนาแน่นของหน้าจอ 288ppi ซึ่งจะเห็นว่าทั้ง Samsung Galaxy Tab S 8.4 และ Samsung Galaxy Tab S 10.5 มาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED ที่มีความละเอียดสูงมาก ความหนาแน่นของหน้าจอสูงทำให้เวลาเราใช้งาน และรับชมสื่อต่างๆผ่าน Samsung Galaxy Tab S เราจะได้รับประสบการณ์ความบันเทิงและการใช้งานผ่านหน้าจอแบบเต็มอิ่มที่สุดเท่าที่เคยสัมผัสบน Tablet จริงๆครับ ขนาดแฟนบอย Apple ยังยอมรับเลยนะว่าหน้าจอของ Samsung Galaxy Tab S นั้นเหนือชั้นจริงๆ^__^ หน้าจอ AMOLED ย่อมาจาก active-matrix organic light-emitting diode โดย active-matrix ก็คือเทคโนโลยีที่พัฒนามาจากหน้าจอ Computer ในชั้น Anode จะมีลักษณะเป็นฟิล์มบางที่เป็นวงจรในตัวเอง ควบคุมการเกิดภาพได้เองแถมยังใช้พลังงานต่ำ มีมุมมองที่กว้างและให้ภาพที่สีสดใส คมชัดและ organic light-emitting diode คือจอภาพที่มีส่วนประกอบเป็นสารอินทรีย์ที่สามารถเปล่งแสงเองได้เมื่อได้รับพลังงานไฟฟ้าเรียกว่ากระบวนการ Electroluminescence ซึ่งไม่ต้องพึ่งแสง Backlight และจะไม่มีการเปล่งแสดงในบริเวณที่เป็นภาพสีดำ ส่งผลให้สีดำนั้นดำสนิท อีกทั้งยังช่วยประหยัดพลังงาน และหน้าจอที่ใช้ใน Samsung Galaxy Tab S ก็ไม่ใช่หน้าจอ AMOLED ธรรมดานะครับเพราะมันคือหน้าจอ Super AMOLED ที่นิยมใช้ในมือถือระดับสูงของ Samsung โดยเทคโนโลยี Super AMOLED จะแตกต่างจาก AMOLED ตรงการเรียงตัวของเม็ดสี ช่วยให้สีสันสดใสยิ่งขึ้น และสามารถสะท้อนแสงได้มากขึ้นอีกด้วย ช่วยให้หน้าจอสวยงามเหนือชั้นยิ่งกว่าเดิม โดยมีจุดเด่นคืออัตราส่วนการแสดงแสงสีขาวและสีดำบน Super AMOLED จะสูงกว่าหน้าจอ LCD ทั่วไปถึง 100 เท่าทีเดียว! เพราะหน้าจอ Super AMOLED สามารถแสดงสีสันและความกว้างของช่วงสีได้มากถึง 90% ส่วนหน้าจอ LCD ทำได้เพียง 70% เท่านั้นทำให้หน้าจอ Super AMOLED ในทางเทคนิคสามารถถ่ายทอดภาพที่ดูเป็นธรรมชาติ มีการไล่สีที่น่าทึ่งกว่าหน้าจอ LCD แถมยังประหยัดพลังงานมากกว่า ยิ่งนำมาใช้กับอุปกรณ์พกพาอย่าง Smartphone หรือ Tablet ด้วยแล้วยิ่งเป็นจุดแข็งทีเดียวครับ จากภาพ Samsung Galaxy Tab S ไม่ว่าผมจะเอียงตัวเครื่องไปในองศาไหน ภาพบนจอก็ยังคมชัดสวยงาม และสีสดใสไม่เพี้ยนเลยครับ ช่วยให้เราสามารถรับชมสื่อความบันเทิง หรือทำงานบน Tablet ตัวโปรดเครื่องนี้ได้อย่างยาวนาน และสบายตา ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็ชัดเจนไปหมด นี่คือจุดแข็งของหน้าจอ Samsung Galaxy Tab S จริงๆครับนอกจากหน้าจอจะสวยมากๆแล้ว ยังมีมุมมองกว่าสบายตาอีกด้วย แถมตัวเครื่องยังออกแบบมาสวยหรู และบางเบาที่สุดที่ Samsung เคยผลิตมาอีกด้วยนะครับ ถ้าใครรู้สึกว่าสีสันหน้าจอของ Samsung Galaxy Tab S ดูสดเกินไปก็มีโหมด Adaptive Display ซึ่งสามารถตั้งค่าหน้าจอให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด โดยสามารถปรับได้ถึง 3 รูปแบบซึ่งถ้าเรารู้สึกว่าหน้าจอดูสดใสเกิดไป ก็สามารถปรับให้สีสันให้ดูสมจริงขึ้นได้นะครับ แต่จริงๆแล้วหน้าจอสีสันสดใสขึ้นสุดยอดนี่ละคือจุดเด่นของหน้าจอ Super AMOLED สามารถไปอ่านรีวิวโดยละเอียดของ Tablet ระดับเรือธงรุ่นใหม่ของ Samsung กันได้เลย ผมได้รีวิวให้อ่านกันเสร็จเรียบร้อยแล้วทั้ง 2 รุ่นครับ รีวิว Samsung Galaxy Tab S 8.4 โดยทีม AppDisqus รีวิว Samsung Galaxy Tab S 10.5 โดยทีม AppDisqus สเปคของ Samsung Galaxy Tab S 8.4 3G HSDPA ทุกเครือข่าย 4G LTE ขนาดตัวเครื่อง 212.8 x 125.6 x 6.6 มม. น้ำหนัก 298 กรัม Fingerprint sensor (PayPal certified) หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 8.4 นิ้วความละเอียด 1600 x 2560 pixels (359ppi) Android 4.4.2 KitKat ครอบทับด้วย TouchWiz UI (Vibrant UX) ชิบเซ็ต Samsung Exynos Octa 5420 ARM Cortex-A15 1.90GHz + ARM Cortex-A7 1.30GHz RAM 3GB หน่วยความจำภายใน 16GB (เหลือให้ใช้ประมาณ 11.5GB) และสามารถเพิ่มได้สูงสุด 128GB Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, DLNA, Wi-Fi hotspot Bluetooth 4.0 with A2DP, EDR, LE, NFC, Infrared port, microUSB v2.0 (MHL), USB On-the-go, USB Host GPS รองรับ GLONASS กล้องความละเอียด 8 MP, 3264 x 2448 pixels, autofocus, LED flash, Geo-tagging บันทึกวีดีโอความละเอียด 1080P 30fps กล้องหน้าความละเอียด 2.1MP แบตเตอรี่ความจุ  4900 mAh ราคาเปิดตัว 16900 บาท สเปคของ Samsung Galaxy Tab S 10.5 3G HSDPA ทุกเครือข่าย 4G LTE ขนาดตัวเครื่อง 247.3 x 177.3 x 6.6 มม. น้ำหนัก 467 กรัม Fingerprint sensor (PayPal certified) หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 10.5 นิ้วความละเอียด 1600 x 2560 pixels (288ppi) Android 4.4.2 KitKat ครอบทับด้วย TouchWiz UI (Vibrant UX) ชิบเซ็ต Samsung Exynos Octa 5420 ARM Cortex-A15 1.90GHz + ARM Cortex-A7 1.30GHz RAM 3GB หน่วยความจำภายใน 16GB (เหลือให้ใช้ประมาณ 11.5GB) และสามารถเพิ่มได้สูงสุด 128GB Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, DLNA, Wi-Fi hotspot Bluetooth 4.0 with A2DP, EDR, LE, NFC, Infrared port, microUSB v2.0 (MHL), USB On-the-go, USB Host GPS รองรับ GLONASS กล้องความละเอียด 8 MP, 3264 x 2448 pixels, autofocus, LED flash, Geo-tagging บันทึกวีดีโอความละเอียด 1080P 30fps กล้องหน้าความละเอียด 2.1MP แบตเตอรี่ความจุ  7900 mAh ราคาเปิดตัว 19900 บาท ทั้ง 2 รุ่น Samsung Galaxy Tab S 8.4 และ Samsung Galaxy Tab S 10.5 วางจำหน่ายแล้วครับ สามารถไปลองทดสอบกับมือกันได้เลยที่ศูนย์ Samsung หรือตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ จากใจครับผมปลื้ม Samsung Galaxy Tab S 8.4 มากๆเลย อยากได้ใว้ใช้เองเลยนะเนี่ย^__^ Sponsored post by Samsung Author information joker-master "สู้กับคนอื่น เราอาจจะสร้างศัตรู" แต่ "สู้กับตัวเอง เราจะสร้างมิตรที่พึ่งพาได้ตลอดกาล" TwitterFacebook

PR : เกมมือถือสุดน่ารัก Fantasista Doll ต้อนรับอีเวนท์ใหม่ครั้งใหญ่ แจกของเพียบ ทั้งผู้เล่นใหม่ ผู้เล่นเก่า Posted: 04 Sep 2014 08:16 AM PDT สิ้นสุดการรอคอยกิจกรรมอีเวนท์ครั้งใหญ่ของเกม Fantasista Doll เกมมือถือสุดน่ารัก อันดับ 1 จากญี่ปุ่น แจกของมากมายทั้งผู้เล่นใหม่และเก่า พร้อมกับตามล่าการ์ดระดับสูง SR (Super Rare) สาวน้อยในชุดว่ายน้ำใบใหม่เปิดตัวทีเดียว ถึง 5 ใบ พร้อมกับเนื้อเรื่องใหม่กับดอลล์สาวน้อยตัวหลักสุดน่ารักทั้ง 5 เคลียร์เนื้อเรื่อง Event 2 ครั้ง รับ การ์ระดับสูง ฟรี 100% Download เกม iOS : http://goo.gl/3sjpgM Android : http://goo.gl/IUIJ4x ติดตามกิจกรรมภายในเกม : https://www.facebook.com/fdthai   ต้อนรับผู้เล่นใหม่ที่พึ่งเข้ามาเล่นในช่วงกิจกรรม รับไปเลยแพคไอเทมเริ่มต้น เพียงแค่เคลียร์ Tutorial เท่านั้น ส่วนผู้เล่นเก่า แค่เข้ามาเล่นในช่วงกิจกรรมก็สามารถรับรางวัล Login Bonus ที่พิเศษกว่า Login Bonus ทั่วๆไปอีกด้วย !!Login ทุกวันตลอดช่วงกิจกรรม รับไปเลย! การ์ดระดับสูง HR Cardอีก 2 ใบ!! แจกฟรีการ์ด HR แค่ login ทุกวัน! ยังไม่พอ เตรียมพบกับโปรโมชั่นลดราคาคืนกำไรให้แก่ผู้เล่นอีกมากมาย ทั้งลด 10% และโปรโมชั่นเติมเงินครั้งแรกจาก True Money รับเงินเพิ่ม 2 เท่า! คลิ๊ก > http://goo.gl/39oEe2 แพค 1800 DollCa ลด 10% MBCoin   Fantasista Doll คืออะไร? :  http://goo.gl/UJTMNq   Download เกม iOS : http://goo.gl/3sjpgM Android : http://goo.gl/IUIJ4x ติดตามกิจกรรมภายในเกม : https://www.facebook.com/fdthai   รายละเอียดกิจกรรมและโปรโมชั่น “ชุดว่ายน้ำและน้ำแข็งใสในตำนาน” - กิจกรรม “ชุดว่ายน้ำและน้ำแข็งใสในตำนาน” เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน เวลา 18:00  ถึง 16 กันยายน 2557 เวลา 18:00 - แคมเปญ Login Bonus ของกิจกรรมนี้แบ่งเป็น 2 ช่วง เริ่มตั้งแต่ 3 กันยายน 00:00 ถึง 17 กันยายน 00:00 - ผู้เล่นที่เข้ามาใหม่และทำการเคลียร์ Tutorial หลังจากวันที่ 3 กันยายน 00:00 จะได้รับแพคเกจไอเทมเริ่มต้นฟรีทันที! - เงื่อนไขโปรโมชั่นเป็นไปตามที่เขียนในเว็บไซต์ Author information joker-master "สู้กับคนอื่น เราอาจจะสร้างศัตรู" แต่ "สู้กับตัวเอง เราจะสร้างมิตรที่พึ่งพาได้ตลอดกาล" TwitterFacebook

[IFA 2014] วิดีโอย้อนหลัง งานเปิดตัว Lumia 730, 830, Lumia Denim และอุปกรณ์เสริมของ Microsoft Posted: 04 Sep 2014 06:55 AM PDT ช่วงบ่ายของวันนี้ Microsoft ได้จัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของตัวเอง ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีการเปิดตัวในงานนี้มีดังนี้ครับ   เฟิร์มแวร์ระบบ Lumia Denim หรือ Windows phone 8.1 update สำหรับชาว Nokia Lumia Lumia 830 มือถือสเปคสูง ในราคาที่จับต้องได้ง่ายๆ Lumia 730 มือถือ Selfie phone เครื่องแรกจาก Microsoft อุปกรณ์เสริม Miracast receiver HD-10 และ Wireless charging plate 2.0 DT-903   สำหรับผู้ที่พลาดงานนี้ไปช่วงกลางวัน สามารถรับชมย้อนหลังได้จากที่นี่ครับ       ที่มา: Nokia Conversation           Author information Ton Panasit Geek มือใหม่ อ่านข่าว IT เป็นกิจวัตร ใช้งานมือถือมาหลายระบบ แต่ตอนนี้ลงหลักปักฐานกับ windows phone… Facebook

PR : WeChat เปิดตัวแคมเปญใหม่ “WeChat Local Artist” เสริมศักยภาพศิลปินไทยสู่เวทีโลก รับเทรนด์โซเชียลเเชทแอพสุดฮิต เอาใจขาแชทด้วยสติกเกอร์ดุ๊กดิ๊กใหม่ 15 ชุด ผลงานจาก 15 ศิลปินชั้นแนวหน้าชาวไทย Posted: 04 Sep 2014 05:18 AM PDT กรุงเทพฯ – 2 กันยายน 2557 – WeChat ผู้นำนวัตกรรมด้านการสื่อสารด้วยโซเชียลแอพพลิเคชั่นผ่านอุปกรณ์มือถือเปิดตัวแคมเปญใหม่ล่าสุด "WeChat Local Artist Campaign" เชิญชวนศิลปินนักวาดภาพประกอบชื่อดังชาวไทยมาร่วมออกแบบสติ๊กเกอร์ดุ๊กดิ๊กให้กับ WeChat ภายใต้แนวคิด "Bring Local to Global" โดย ศิลปินกลุ่มแรกที่เข้าร่วมแคมเปญ คือ กลุ่มนักวาดภาพประกอบที่มีผลงานเป็นที่รู้จักในวงการจำนวน 15 ท่าน พร้อมกับสติ๊กเกอร์ดุ๊กดิ๊ก 15 ชุดใหม่ สำหรับผู้ใช้งาน WeChat โดยเฉพาะ เพื่อตอกย้ำเจตนารมณ์ของ WeChat ที่มุ่งมั่นนำเสนอบริการที่ดียิ่งขึ้นสู่ผู้ใช้งานประจำกว่า 438 ล้านคนทั่วโลก และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานแชทแอพพลิเคชั่นในปัจจุบันที่นิยมส่งสติ๊กเกอร์แทนความรู้สึกกันเป็นอย่างมาก ผลสำรวจจาก Global Web Index หัวข้อ Mobile Messaging Trend ไตรมาสที่ 3 ประจำปีนี้ นำเสนอสาระที่น่าสนใจจากการสำรวจในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ว่า ผู้ใช้งานจำนวน 600 ล้านคนทั่วโลก ในช่วงอายุ 16-64 ปี ใช้ instant messaging บนอุปกรณ์มือถือ สำหรับ WeChat การส่ง instant messaging คือการส่งข้อความ การสนทนาผ่านวิดีโอ และการส่งสติ๊กเกอร์ นอกจากนั้นผลสำรวจยังระบุอีกว่าพฤติกรรมของกลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟน แบ่งเป็น 5 พฤติกรรมหลัก คือ เช็คอีเมล์ แชทกับเพื่อน อ่านคอนเท้นท์ทางหน้าเว็บไซต์ เล่นเกม และช้อปปิ้งออนไลน์ โดยการใช้แชทแอพพลิเคชั่นกำลังเป็นที่นิยมแทนที่การส่ง SMS เนื่องจากกลุ่มผู้ใช้รู้สึกว่าสะดวกกว่า เพราะว่าพฤติกรรมของคนส่วนใหญ่ก็หันมาสนทนาผ่านแชทแอพพลิเคชั่นกันเป็นส่วนมากแล้ว  ทั้งยังมีลูกเล่นให้แก่ผู้ใช้งานเพิ่มเติมด้วย เช่น การส่งสติ๊กเกอร์ หรือส่งข้อความเสียง เป็นต้น นายกฤตธี มโนลีหกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วีแชท (ประเทศไทย) จำกัด และ ผู้บริหาร บริษัท เทนเซ็นต์ ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า "ปัจจุบันการส่งสติ๊กเกอร์เพื่อแทนความรู้สึกได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และจุดเด่นของ WeChat เองคือ สติ๊กเกอร์ดุ๊กดิ๊กเคลื่อนไหวได้ เราจึงต้องการพัฒนาจุดเด่นของเราให้ตอบสนองความต้องการพฤติกรรมผู้ใช้งานให้มากยิ่งขึ้น "WeChat Local Artist Campaign" คือ แคมเปญที่เปิดโอกาสให้ศิลปินนักวาดภาพประกอบชาวไทยได้สร้างสรรค์ผลงานโดยการออกแบบสติ๊กเกอร์ดุ๊กดิ๊กสะท้อนตัวตนและไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานโซเชียลแชทแอพพลิเคชั่นในประเทศไทย ให้ผู้ใช้งาน WeChat ดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรี และสติ๊กเกอร์ที่ศิลปินนักวาดภาพประกอบออกแบบมานี้ ผู้ใช้งาน WeChat ในประเทศอื่น ก็จะได้มีโอกาสดาวน์โหลดไปใช้งานด้วยเช่นกัน โดยเราจะส่งผลงานจากศิลปินชาวไทยไปยัง WeChat ทั่วโลก เพื่อการพิจารณาคัดเลือกไปไว้ใน WeChat Gallery Sticker ในประเทศต่างๆ" "เราภูมิใจที่วันนี้ WeChat เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเผยแพร่ผลงานของศิลปินชาวไทยสู่ตลาดโซเชียลแอพพลิเคชั่นทั่วโลก ซึ่งจะทำให้สติ๊กเกอร์ของประเทศไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งในการขยายโอกาสทางธุรกิจให้ศิลปินนักวาดภาพประกอบสามารถต่อยอดการสร้างสรรค์คอนเท็นต์ในรูปแบบใหม่ๆ ได้อีกด้วย เราเชื่อมั่นว่าแคมเปญนี้ จะเป็นแคมเปญที่ช่วยผลักดันผลงานดีๆ ของศิลปินนักวาดภาพประกอบชาวไทย ออกสู่ตลาดระดับโลกได้ ตามแนวคิด Bring Local to Global ของเรา" นางสาววชิราภรณ์ เย็นชัยสิทธิ์ (ฝน) นักวาดภาพประกอบในนามปากกา "LaPluie" ผู้โด่งดังมาจากชุดภาพประกอบหญิงสาวผมม้าน่ารัก หนึ่งในนักวาดภาพประกอบที่เข้าร่วมแคมเปญนี้ กล่าวว่า "เรารู้สึกยินดีมากที่ WeChat ผู้นำระดับโลกด้านโซเชียลแอพพลิเคชั่นเลือกเราเป็นหนึ่งในทีมนักวาดภาพประกอบ ในแคมเปญ "WeChat Local Artist Campaign" เพื่อออกแบบสติ๊กเกอร์ดุ๊กดิ๊กบนแอพพลิเคชั่น WeChat ครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่เราได้ออกแบบสติ๊กเกอร์ในรูปแบบภาพเคลื่อนไหวลงบนแพลตฟอร์มแบบดิจิตอล ซึ่งถือว่าเป็นการเสริมสร้างศักยภาพในการพัฒนาการวาดภาพประกอบที่ดีมากให้กับเรา สติ๊กเกอร์ชุดที่เราออกแบบให้ WeChat เป็นชุดสติ๊กเกอร์ผู้หญิงผมม้าชื่อ "Miss Mousie" ที่เราออกแบบมาให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นในปัจจุบัน ตรงกับกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้งานของ WeChat โดยเฉพาะกลุ่มเด็กสาววัยรุ่นที่เป็นกลุ่มที่ใช้งาน WeChat เป็นประจำอยู่แล้ว เราเชื่อมั่นว่าสติ๊กเกอร์ชุดนี้ จะเป็นส่วนช่วยขยายกลุ่มผู้ใช้งานของ WeChat ได้อย่างแน่นอน นอกจากนั้นเรายังมองเห็นว่า WeChat จะเป็นส่วนช่วยเผยแพร่ผลงานของเราออกสู่กลุ่มผู้ใช้งานทั้งในเมืองไทยและทั่วโลก ซึ่งจะสามารถช่วยต่อยอดช่องทางในด้านธุรกิจและการสร้างรายได้ในอนาคตจากตลาดใหม่ๆ ได้อีกด้วย" นอกจากนี้ "WeChat Local Artist Campaign" ยังมีกิจกรรมพิเศษในแคมเปญนี้ สำหรับผู้ใช้งาน WeChat ที่ดาวน์โหลดและแชร์สติ๊กเกอร์ดุ๊กดิ๊กเยอะที่สุด จะได้มีโอกาสเป็นเจ้าของสติ๊กเกอร์ดุ๊กดิ๊กคาแรคเตอร์ของตัวเองทันที โดยนักวาดภาพประกอบที่มียอดดาวน์โหลดสติ๊กเกอร์มากที่สุด จะเป็นผู้ออกแบบสติ๊กเกอร์ให้คุณด้วยตัวเอง WeChat ประเทศไทย มีสติกเกอร์หลายชุดที่ได้รับความนิยม โดย 5 อันดับแรก คือ Emoticat  สติ๊กเกอร์แมวตาแป๋วจอมกวน ที่ทั้งซ่าส์ ทั้งน่ารักเคลื่อนไหวแบบกวนๆ คล้ายแมวจริง Chewyhams  สติ๊กเกอร์แฮมสเตอร์บ่งบอกอารมณ์หลายรูปแบบ Elise สติ๊กเกอร์สาวน้อยลายเส้นหน้าตาน่ารักคล้ายๆ การ์ตูนญี่ปุ่น Dog Series สติ๊กเกอร์สุนัขหน้าตาฮาๆ พร้อมอากัปกิริยากวนๆ และ Cynical Rabbit  สติ๊กเกอร์กระต่ายหน้าตามีเอกลักษณ์ ตลก แสนซน จากความนิยมของสติ๊กเกอร์ WeChat เหล่านี้ สะท้อนให้เห็นพฤติกรรมการใช้แชทแอพพลิเคชั่นคนไทยได้อย่างดีว่า คนไทยชอบรูปแบบของภาพเคลื่อนไหวที่เป็นธรรมชาติ น่ารักและชอบตัวการ์ตูนที่เป็นรูปสัตว์ ที่มีพฤติกรรมกวนๆ ทะเล้นๆ พร้อมความฮา ยิ่งสติ๊กเกอร์ที่แสดงความรู้สึกที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันเสมอ จะยิ่งเป็นที่นิยม ทั้งหัวเราะ ร้องไห้ ตกใจ เหงา เศร้า ง่วงนอน หิว จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เกี่ยวกับ WeChat WeChat นวัตกรรมด้านการสื่อสารด้วยโซเชียลแอพพลิเคชั่นผ่านอุปกรณ์มือถือที่ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน เป็นแอพพลิเคชั่นที่ช่วยเปิดโลกทรรศน์และสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ให้กับผู้คนในการติดต่อสื่อสาร และแบ่งปันประสบการณ์ซึ่งกันและกัน และยังเป็นโซเชียลแอพพลิเคชั่นที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกในขณะนี้ ด้วยยอดผู้ใช้งานหลายร้อยล้านคนในระดับโลก WeChat จะทำให้ผู้ใช้งานเพลิดเพลินไปกับแอพพลิเคชั่นและยังใช้งานได้อย่างง่ายดาย พร้อมด้วยหลากหลายฟีเจอร์ ทั้งการส่งข้อความ การติดต่อสื่อสารผ่านโซเชียลและเกมส์ที่นำมารวมกันไว้เป็นหนึ่งเดียวแบบไร้ที่ติ พร้อมด้วยประสบการณ์การใช้งานแบบอินเตอร์แอคทีฟ ที่มาพร้อมระบบความเป็นส่วนตัวที่ครอบคลุมทุกฟังก์ชั่นการใช้งานและการตั้งค่าการรักษาความปลอดภัยที่สามารถปรับตั้งได้ตามความต้องการของแต่ละบุคคล WeChat สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี และใช้งานได้บนสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android, BlackBerry, iOS, Symbian และ Windows ข้อมูลเพิ่มเติมของ WeChat และดาวน์โหลดได้ที่ HYPERLINK “http://www.wechat.com/”www.wechat.com อัพเดทความเคลื่อนไหวของ WeChat ประเทศไทยได้ที่ HYPERLINK “http://www.facebook.com/wechatthai”www.facebook.com/wechatthai ติดตามชมวิดีโอเจ๋งๆ ของ WeChat ได้บน YouTube ที่ HYPERLINK “http://www.youtube.com/WeChatVideo”www.youtube.com/WeChatVideo Author information joker-master "สู้กับคนอื่น เราอาจจะสร้างศัตรู" แต่ "สู้กับตัวเอง เราจะสร้างมิตรที่พึ่งพาได้ตลอดกาล" TwitterFacebook

มาแล้วแอพ Lumia Selfie แอพสำหรับถ่ายภาพ Selfie สำหรับชาว Nokia Lumia Posted: 04 Sep 2014 05:09 AM PDT จากที่เพิ่งประกาศไปในงานเปิดตัว Lumia 830 และ 730 วันนี้ครับว่า Microsoft จะมีแอพสำหรับการถ่ายภาพแบบ Selfie ตัวใหม่อย่าง Lumia Selfie ที่จะเปิดให้ดาวน์โหลดกันวันนี้ และตอนนี้แอพนี้ก็มาแล้วครับ และก็ตามคาดครับ เจ้าแอพ Lumia Selfie นี้ไม่ใช่แอพใหม่อะไร แต่เป็นเวอร์ชั่นอัพเดทของแอพ Nokia Glamme แอพสำหรับถ่ายภาพ Selfie ที่เปิดตัวพร้อมๆกับการเปิดตัวของ Nokia Lumia 720 เมื่อปีก่อนนั่นเอง ในแง่ของการหน้าจอการใช้งานนั้น มีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย และมีการเพิ่มฟิลเตอร์เข้าไปใหม่อีกพอสมควร นอกจากนี้ยังเพิ่มเครื่องมือสำหรับการแต่งภาพเข้ามาอีกด้วย ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลด หรืออัพเดทแอพ Lumia Selfie ได้จากที่นี่ครับ   ดาวน์โหลด: Lumia Selfie สำหรับ Windows phone 8.0 ขึ้นไป QR Code:   Author information Ton Panasit Geek มือใหม่ อ่านข่าว IT เป็นกิจวัตร ใช้งานมือถือมาหลายระบบ แต่ตอนนี้ลงหลักปักฐานกับ windows phone… Facebook

[IFA 2014] Microsoft เปิดตัวอุปกรณ์เสริม Miracast receiver และ Wireless charging plate 2.0 Posted: 04 Sep 2014 04:52 AM PDT นอกจากการเปิดตัวเฟิร์มแวร์ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่อย่าง Lumia Denim และโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่อีก 2 รุ่นแล้ว Microsoft ยังเปิดตัวอุปกรณ์เสริมใหม่ สำหรับมือถือตระกูล Lumia อีกด้วย ดังนี้ครับ Miracast receiver HD-10 เชื่อมต่อมือถือของคุณกับจอใหญ่ๆได้ง่ายๆ Microsoft เปิดตัวระบบ Miracast หรือ Project My Screen การแชร์หน้าจอมือถือของเราไปยังอุปกรณ์ที่มีจอภาพขนาดใหญ่กว่าอย่างโทรทัศน์หรือโปรเจคเตอร์ได้แบบไร้สาย แต่สำหรับโทรทัศน์ที่ไม่รองรับระบบ Miracast นั้น จะไม่สามารถใช้งานคุณสมบัตินี้ได้ แต่ด้วยเจ้า Miracast receiver นั้นจะทำให้เราสามารถแชร์หน้าจอมือถือของเราได้ง่ายยิ่งขึ้นครับ หลักการทำงานคือ เจ้า HD-10 จะเชื่อมต่อกับโทรทัศน์หรือโปรเจคเตอร์ด้วยพอร์ต HDMI และสำหรับการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือนั้น เราสามารถเลือกเชื่อมต่อได้ผ่านเครือข่าย WiFi หรือด้วยการใช้งาน NFC เมื่อเชื่อมต่อแล้ว เราสามารถแชร์หน้าจอโทรศัพท์มือถือของเราไปยังโทรทัศน์หรือโปรเจคเตอร์ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการแชร์ภาพถ่าย วิดีโอความละเอียดระดับ Full-HD 1080p หรือแม้แต่การเล่นเว็บบราวเซอร์บนหน้าจอใหญ่ มาดูวิดีโอสาธิตการทำงานของเจ้า Miracast Receiver HD-10 กันครับ   Microsoft Miracast Receiver HD-10 สามารถใช้งานร่วมกับโทรศัพท์ยี่ห้ออื่นๆ หรืออุปกรณ์อื่นๆที่รองรับเทคโนโลยี WiFi Miracast ได้ Microsoft Miracast Receiver HD-10 จะวางจำหน่ายภายในเดือนนี้ ราคาราว 79 เหรียญสหรัฐ หรือราว 2,500 บาท     Wireless charging plate 2.0 DT-903 Microsoft เปิดตัวแท่นชาร์จไร้สายรุ่นใหม่ DT-903 ซึ่งเพิ่มความสามารถด้านการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือด้วย Bluetooth และ NFC ซึ่งทำให้เจ้าแท่นชาร์จไร้สายนี้ทำงานได้อย่างฉลาดขึ้น ตามคอนเซปท์ Smart Wireless Charging   โดยเมื่อเราเชื่อมต่อเจ้า DT-903 เข้ากับโทรศัพท์มือถือของเราแล้ว สิ่งที่มันจะทำได้คือ แจ้งเตือนเราด้วยแสงไฟที่อยู่ใต้ฐานของมัน เมื่อโทรศัพท์มือถือของเราอยู่ในระยะของสัญญาณ Bluetooth และมีแบตเตอร์รี่ต่ำกว่า 30% ซึ่งเจ้า DT-903 จะเตือนด้วยการส่องแสงกระพริบช้าๆ ระหว่างที่ชาร์จอยู่ หากมีสายที่เราไม่ได้รับ หรือข้อความที่ยังไม่ได้เปิดอ่าน เจ้า DT-903 จะแจ้งเตือนด้วยการส่องแสงกระพริบ 2 ครั้งติดต่อกัน สำหรับมือถือที่มีเทคโนโลยี NFC เราสามารถตั้งโปรแกรมให้มือถือของเราทำงานบางอย่างเมื่อวางไว้บนแท่นชาร์จได้ด้วย Microsoft DT-903 วางจำหน่ายทั้งสิ้น 3 สีได้แก่ สีส้มสด เขียวสด และขาว ในราคา 59 เหรียญสหรัฐหรือราว 1,900 บาท และจะวางจำหน่ายในเดือนตุลาคมนี้ครับ     ที่มา: WPCentral ข่าว 1, ข่าว 2   Author information Ton Panasit Geek มือใหม่ อ่านข่าว IT เป็นกิจวัตร ใช้งานมือถือมาหลายระบบ แต่ตอนนี้ลงหลักปักฐานกับ windows phone… Facebook

You are subscribed to email updates from iPhone, iPad, Android, Windows Phone 8 เกมรีวิว แอพพลิเคชั่นรีวิว วิจารณ์ มือถือ ข่าวสารล่าสุด - APPDISQUS To stop receiving these emails, you may unsubscribe now.	Email delivery powered by Google
Google Inc., 20 West Kinzie, Chicago IL USA 60610